พระเยซูเจ้าทรงหันไปทอดพระเนตรบรรดาศิษย์
ทรงตำหนิเปโตรว่า
“เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลังเรา อย่าขัดขวาง
เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์”
(มาระโก 8:33)
คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร ให้ความข้อคิดเกี่ยวกับความรู้สึกของบรรดาศิษย์
ที่พวกเขาต่างคาดหวังว่า พระเยซูเจ้าเสด็จมาเพื่อเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่
ที่จะมาเพื่อปลดปล่อยชาวอิสราเอล
แต่พระเยซูเจ้ากลับตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์ต้องรับการทรมานอย่างมาก
จะถูกบรรดาผู้อาวุโส มหาสมณะ และธรรมาจารย์ปฏิเสธไม่ยอมรับ
และจะถูกประหารชีวิต....”
(มาระโก 8:31)
นี่หรือคือชีวิตของกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขารอคอย
แต่พระเยซูเจ้าเสด็จลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสอนเราด้วยชีวิต
แบกกางเขนซึ่งเป็นความผิดบาปของเราเพื่อให้เรารอดพ้น
และสอนให้เรารู้จักที่จะยอมรับกางเขนเล็กๆในชีวิตของตนเพื่อติดตามพระองค์ไป
#อะไรคือกางเขนสำหรับฉัน?
ชีวิตการงาน การมีสัมพันธภาพกับคนรอบข้าง
ชีวิตครอบครัว ความทุกข์ยากปัญหาอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาไม่รู้จบ
บางวันฉันก็รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับชีวิต
โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องฝ่าฟันกับเหตุการณ์ที่ยากเกินจะเข้าใจได้
กรวดหินดินทรายที่ทำให้ฉันต้องสะดุดบนเส้นทางเดิน
หรือแม้แต่หน้าผาสูงชันที่มองขึ้นไปทีไรก็ทดท้อสิ้นแรง
ยิ่งฉันมองกลับไปเบื้องหลัง
ฉันพบผู้คนมากมายนั่งทอดอาลัยกับหลุมบ่อของชีวิต
บางคนพร่ำบ่นต่อว่าชีวิตที่ดูเหมือนไร้ค่า ไร้เป้าหมาย
เมื่อกล่าวถึงชีวิตที่มีเป้าหมาย
ฉันก็คิดถึงในสมัยยังเป็นวัยรุ่นฟุ้งซ่านหัวใจว้าวุ่น
ด้วยความที่ฉันถูกเลี้ยงดูในครอบครัวที่ค่อนข้างมีกรอบชัดเจน
ฉันจึงรู้สึกว่า คำว่าเป้าหมายในชีวิตของฉัน ฉันไม่ต้องกำหนดด้วยตนเอง
นั่นคือการที่พ่อและแม่วางเส้นทางไว้ให้ฉันและฉันก็ต้องเดินไป
มันเป็นเป้าหมายที่ลางเลือนที่ฉันมองไม่เห็น
แต่รู้ว่าต้องเดินไปตามทางนั้น
มันขาดแรงผลักดันให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีจุดหมายปลายทาง
จวบจนฉันโตขึ้น มีครอบครัว มีลูกที่ต้องดูแล
ฉันก็พบว่า ฉันมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนขึ้น
ฉันมีลูกที่ต้องดูแลรับผิดชอบเลี้ยงดู ให้การอบรม เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด
ฉันรู้สึกว่า ชีวิตมีค่าและต้องรักษาดูแลให้ดี
ฉันรับรู้ว่า ความทุกข์ยากบางช่วงที่ผ่านมาในชีวิตมันก็แค่เศษกรวดหินเล็กน้อย
เป้าหมายของฉันคือชีวิตในครอบครัวที่พระมอบให้
ฉันต้องมีทุกวันเพื่อหล่อหลอมสมาชิกในครอบครัวให้เป็นคริสตชนที่ดี
ฉันต้องมีทุกวันเพื่อตอกย้ำให้สมาชิกในครอบครัวเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
มันเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก มันเป็นกางเขนที่หนักเอาการอยู่
แต่กางเขนนั้นนำไปสู่เป้าหมายที่ดี ชัยชนะที่งดงาม
เป็นกางเขนของความสุขใจเมื่อสมาชิกในครอบครัวเป็นคนดี
ผ่านการทรงนำของพระเจ้าในช่วงเวลาของความยุ่งยากที่ฉันอาจจะแก้ไขไม่ได้
“...ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็ให้เขาเลิกนึกถึงตนเอง
ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา”
(มาระโก 8:34)
เมื่อความทดท้อ เหนื่อยหน่ายเข้ามาในชีวิต
ฉันก็แค่ปรับ เปลี่ยน ฟื้นฟู และเปิดใจ รับพลังจากพระเจ้าเข้ามา
ค่อยๆ เยียวยาจิตวิญญาณที่อ่อนแอให้คืนกลับมาเข้มแข็งสดใสดังเดิม
กางแขนออก โอบกอด กางเขนนั้น
สิ่งที่ฉัน ฝันใฝ่ ใช่ฟ้าใส
แต่คือองค์ พระคริสต์ ผู้ทรงชัย
นำฉันไป สู่จุดหมาย แห่งปลายทาง
ที่สวรรค์ นั้นสว่าง แสนสดใส
ขอพระนำ ฉันไป ไม่เหินห่าง
แม้กรวดหิน ดินทราย ที่รายทาง
จะสร้างแผล ให้ฉันบ้าง ฉันวางใจ
เพราะมีพระ ฉันชนะ ในทุกสิ่ง
รู้พักพิง อิงแอบพระ จะสดใส
กางเขนนี้ มีพลัง นำทางไป
สู่เป้าหมาย ยิ่งใหญ่ ในพระองค์
..................................... |