“เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ
ทรงแลเห็นประชาชนจำนวนมากก็ทรงสงสาร
พวกเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง”
(มาระโก 6:34)
ในช่วงที่ทุกคนต่างต้องเผชิญกับวิกฤตในชีวิต
ความยากลำบากของแต่ละคนต่างไม่เท่ากัน
บางคนเดือดร้อนด้านปัจจัย วิถีการดำเนินชีวิต
บางคนเดือดร้อนด้านสุขภาพทั้งกายและจิตใจ
บางคนไม่ได้เดือนร้อนอะไรมากมายแต่ก็แสดงตนเป็นส่วนหนึ่งของความเดือดร้อน
บางคนรับสื่อข่าวสารข้อมูลมากมายจนแทบจะเอาโลกมาแบกไว้ทั้งใบ
บางคนก็ใช้ชีวิตสบายใจไม่รับรู้ถึงความทุกข์ยากใดๆของใครเลย
ในวันที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าข้าพเจ้าไม่ได้เดือดร้อนมากนัก
ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแค่รอบคอบในการพบปะผู้คนมากขึ้นเท่านั้น
ก็มีเสียงรอบข้างที่กำลังเดือดร้อนทุกข์ใจส่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ
ไม่ว่าจะทางสื่อที่พระเจ้าอาจจะทรงต้องการให้ข้าพเจ้ารับรู้
หรือทางตรงที่คนรอบข้างต้องเผชิญความทุกข์ยากในการดำเนินชีวิต
ข้าพเจ้าเริ่มเก็บข้อมูลความทุกข์ยาก เสียงร่ำไห้เอามาแบกไว้ในใจตัวเอง
ฟ้าที่เคยสงบในใจข้าพเจ้าเริ่มหม่นดำ หยาดฝนเริ่มโปรยปรายในใจ
ด้วยความสงสารแต่ไร้หนทางที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้เลย
ข้าพเจ้าเริ่มแบ่งปันให้เท่าที่กำลังตนเองพอมี ทั้งด้านปัจจัยและกำลังใจ
ซึ่งมันก็คงเป็นเพียงเศษเสี้ยวของผู้ทุกข์ยากที่รอรับความช่วยเหลืออยู่
ดวงใจของข้าพเจ้าหม่นหมอง อึดอัด คับแค้นใจ ด้วยพลังอันน้อยนิดของตน
ชีวิตที่หดหู่เศร้าหมองท่ามกลางความวุ่นวายของโลก
ยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ
เช้าวันนี้ ข้าพเจ้าได้พบบทความหนึ่ง ส่องแสงชัดเจนให้ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจ
ได้ปรับตัว ปรับทัศนคติในการอยู่กับภาวะวิกฤตและสังคมในช่วงนี้อย่างปลอดภัยทั้งกายและจิตใจ
บทความหนึ่งสรุปพอได้ความว่า
จิตแพทย์ได้ให้คำแนะนำเพื่อรับมือกับความเครียดในช่วงวิกฤตินี้
โดยประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดเพื่อให้คำแนะนำ มีดังนี้
*ติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
*เข้าใจธรรมชาติของโรคระบาดและปฏิบัติตนให้ถูกวิธี
*มองโลกในแง่บวกเข้าไว้ ตัดพลังลบออกไป
*ตรวจสอบสภาพอารมณ์และจิตใจของตนเองเสมอ
*หากิจกรรมผ่อนคลายทำ สร้างเสียงหัวเราะให้ตนเอง
บางทีการเสพสื่อข่าวสารที่ทำให้ชีวิตเราหดหู่มากไปก็เกิดผลลบต่อจิตใจ
บางทีการฟังเสียงสะท้อนพลังลบมากเกินไปมันก็ทำให้จิตใจหดหู่อ่อนแอ
บางทีเราเองก็อาจจะเป็นพลังลบให้คนรอบข้างเสียด้วยซ้ำไป
ในช่วงที่โลก สังคมโลกกำลังเผชิญกับพลังลบ
ถ้าเราหลุดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของพลังลบแล้วใครเล่าจะเข้ามาสร้างพลังบวกให้เรา
ใครเล่าจะเป็นผู้สร้างพลังบวกให้คนรอบข้างที่กำลังมีพลังลบท่วมท้นใจและต้องการกำลังใจ
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้า เพราะในวันที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่า ตัวเองรับพลังลบเข้ามามากมาย
พระเจ้าทรงส่งพลังบวกมาให้ข้าพเจ้าและเตือนสอนข้าพเจ้าว่า
จงเป็นพลังบวกให้กับคนรอบข้างในยามวิกฤตและโลกเต็มไปด้วยพลังลบเถิด
สุขภาพใจที่ดีส่งผลต่อสุขภาพกายที่เข้มแข็ง
ขอพลังแห่งความรักและสันติสุขจงคืนสู่สังคมโดยเร็ววันด้วยเทอญ
..................................... |