“พี่น้อง อย่าเป็นหนี้ผู้ใด
นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน
ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว”
(โรม 13:8)
เคยคิดอยู่เหมือนกันว่า ถ้าวันหนึ่งเราจากโลกนี้ไปแล้ว
คนข้างหลังจากพูดถึงเราว่าอย่างไรบ้าง
แบบอย่างที่เราทิ้งไว้ในความรู้สึกของคนรอบข้างเป็นอย่างไร
พวกเขาจะเสียดายที่เราจากไป หรือโห่ร้องยินดีในใจ
ช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
นับวันถอยหลังก็ไม่ใช่ว่าจะยืนยาว
ความอ่อนล้า เจ็บป่วย ผิดหวัง ทำให้เราเรียนรู้ว่า..
อะไรต่อมิอะไรบนโลกใบนี้มันไม่จีรังยั่งยืนเอาเสียเลย
เราจะเรียนรู้จักชีวิต และการแสดงออกเพื่อคุณค่าของการมีชีวิต
ก็ต่อเมื่อเราเรียนรู้ว่าชีวิตมันไม่ง่าย
และร่างกายที่คิดว่าเป็นของเราก็ไม่ใช่ของเรา
เพียงแต่ว่าเราเลือกที่จะใช้ร่างกายของเราบนโลกนี้กระทำสิ่งใด
พระเยซูเจ้าทรงตรัสสอนใจข้าพเจ้าว่า
อย่าพยายามที่จะเป็นหนี้ผู้ใดเลย
โดยเฉพาะหนี้เพื่อความสุขทางกาย
เพราะมันไม่เคยสร้างความสุขที่แท้จริงกับใคร
แต่ให้เราเป็นหนี้ความรักที่เรามีเป็นสมบัติที่พระมอบให้ในจิตวิญญาณอยู่แล้ว
หนี้ที่ไม่ต้องไปแก่งแย่งแข่งขันเพื่อให้ได้มา
และหนี้ที่เราสามารถยกให้คนรอบข้างได้โดยไม่ต้องไปทวงกลับคืน
“จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
ความรักไม่ทำความเสียหายแก่เพื่อนมนุษย์”
(โรม 13:10)
ในเช้าวันใหม่ของทุกๆวัน แม้ว่าจะเป็นวันที่ไม่สวยงามนักก็ตาม
ข้าพเจ้าเฝ้าบอกกับตัวเองว่า
วันนี้จะเป็นอีกวันที่ข้าพเจ้าจะต้องไม่ทำร้ายคนรอบข้าง
ไม่ว่าจะด้วยการกระทำ หรือคำพูด
แม้ว่าในวันนั้นอาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เลย
ในขณะที่เพื่อนมนุษย์กำลังทำร้ายข้าพเจ้า
อาจจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
และข้าพเจ้ารู้สึกว่า นี่คือผลตอบแทนของการที่ข้าพเจ้าไม่ลุกขึ้นต่อสู้ใช่ไหม
ข้าพเจ้าเฝ้าร้องไห้ เสียใจ ผิดหวัง
คิดถึงถ้อยคำของคุณพ่อท่านหนึ่งที่เตือนใจข้าพเจ้าว่า
ถ้าคนดีคนหนึ่งท้อแท้ที่จะทำดี
เราจะมีคนชั่วเพิ่มขึ้นนะ
ข้าพเจ้าจำได้ว่าตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับความยากลำบากที่จะทำดี
ข้าพเจ้าก็เริ่มใช้พระวาจาตอนหนึ่งเป็นข้อคิดประจำใจข้าพเจ้า
“อย่าท้อแท้ในการทำความดี
เพราะถ้าเราไม่หยุดทำความดี
เราก็จะได้เก็บเกี่ยวเมื่อถึงเวลา”
(กาลาเทีย 6:9)
เฝ้าบอกตัวเองทุกวันว่าอย่าท้อแท้ในการทำความดี
บางวันบอกตัวเองทั้งน้ำตาที่รู้ว่าตัวเองกำลังท้อแท้
เติมพลังให้ตัวเองด้วยการเดินหาใครสักคนที่มีพลังทางบวกจะมอบให้เรา
อย่าเข้าหาคนที่มีพลังทางลบ เพราะจะยิ่งดูพลังของเราออกไปอีก
ทำทุกวันให้เป็นวันแห่งความรักเพื่อตนเองและคนรอบข้าง
ตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า
“จะรักให้ เหมือนพระองค์ ที่ทรงรัก
แจ้งประจักษ์ ว่ารักแท้ แน่แค่ไหน
ทุกข์ลำบาก น้ำตาพราก ไม่เป็นไร
สู้ต่อไป อย่าทดท้อ ต่อความดี
รอเก็บเกี่ยว ผลแห่งรัก ประจักษ์แจ้ง
รอดวงใจ เผยแสดง ความสุขศรี
หลังสายฝน พร่างพรม ยังต้องมี
วันฟ้าใส ใจเปรมปรีดิ์ มีพระพร
……………………………. |