“ประกาศกและผู้ชอบธรรมจำนวนมาก

ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็นอยู่  แต่ก็ไม่ได้เห็น

ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านฟังอยู่   แต่ก็ไม่ได้ฟัง”

(มัทธิว 13:17)

................................................

มีแนวทางการสอนหนึ่งเรียกว่าการสอนโดยเน้นกระบวนการไตร่ตรอง

เริ่มจากการรู้จักที่จะฟัง อ่าน ดูข้อความ ข้อคำสอน หรือเรื่องราวสั้นๆสักเรื่องหนึ่ง

แล้วนำมาคิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองจนสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตตนเองได้

ข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำให้ทดลองใช้แนวทางกระบวนการไตร่ตรองนี้กับเด็กๆ

พบว่า หากเด็กๆได้รับการฝึกฝนโดยใช้กระบวนการไตร่ตรองนี้อย่างสม่ำเสมอ

เด็กๆจะสามารถนำประสบการณ์ชีวิตในแต่ละวันเป็นข้อคิดเพื่อพัฒนาตนเองได้ดีขึ้น

และสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีคุณค่า มีความหมายมากยิ่งขึ้น

ชีวิตของข้าพเจ้าก็เช่นกัน

หากจะใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างขอไปทีก็ทำได้

หรือจะกอบโกยหาความสุขเพื่อตัวเองก็ทำได้

แต่พระเจ้าทรงจัดเตรียมภารกิจเบาๆที่มีคุณค่าไว้ให้กับข้าพเจ้า

เพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าหลงลืมพระเจ้า ผู้เป็นเจ้าชีวิตของข้าพเจ้าไปได้

นั่นคือการไตร่ตรองบทความพระวาจาของพระเจ้ารายสัปดาห์

มีบางสัปดาห์ที่ข้าพเจ้าแอบเกิดบาปขี้เกียจ

แต่พระเจ้าก็ทรงส่งนายชุมพาบาลใกล้ชิดมาตักเตือนอยู่เสมอ

“ส่งบทความหรือยังหลานรัก”

ไม่บ่อยครั้งนักที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตนเองละเลยต่อสิ่งสำคัญนี้

แต่ก็มีหลายครั้งอยู่ที่ข้าพเจ้าเกิดความเกียจคร้านโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว

การไตร่ตรองพระวาจาของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ

ทำให้ข้าพเจ้าใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

รอบคอบในการกระทำมากยิ่งขึ้น

ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ดีพร้อม หรือสมบูรณ์ไปเสียทุกอย่าง

ยังคงมีกิจการที่ผิดพลาดพลั้ง และหลงทางอยู่บ่อยๆ

ข้าพเจ้ายังคิดอยู่ว่าหากข้าพเจ้าไม่ได้รับภารกิจนี้

ข้าพเจ้าจะหลงทางไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่อาจคาดเดาได้

พระวาจาที่ข้าพเจ้าได้ไตร่ตรองในแต่ละสัปดาห์

ช่วยฉุดรั้งข้าพเจ้าไว้ให้พ้นจากภยันตรายทั้งปวง

“ใครมีหู ก็จงฟังเถิด”

(มัทธิว 13:9)

พระวาจาของพระเจ้าดังเข้าไปในจิตวิญาณของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าได้ยินและได้ฟังพระวาจานั้นนับเป็นพระพร

แต่พระวาจานั้นจะไม่มีคุณค่าเลยหากข้าพเจ้าได้ยินและได้ฟังแล้วยังเมินเฉย

ไม่ได้นำมาเป็นชีวิต ไม่ได้นำมาเป็นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า

เมื่อไม่นานมานี้ คุณพ่อพงศ์เทพ  ประมวลพร้อม 

ได้ให้ข้อคิดและให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้าว่า

“เพราะผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้นจนเหลือเฟือ

ส่วนผู้ที่มีน้อย จะถูกริบสิ่งเล็กน้อยที่มีไปด้วย

(มัทธิว 13:12)

จึงเป็นความจริง เพราะความเชื่อต่อความเชื่อ

เรามีความเชื่อเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ทิ้ง มันจะเพิ่มพูนขึ้นตามวันเวลา

ช่างตรงกับพระวาจาในวันนี้เสียจริงๆ

ข้าพเจ้ามีความตั้งใจเหลือเกินที่จะไม่ให้สิ่งที่มี

ต้องสูญหายไปจากการละเลยของข้าพเจ้า

และจะทำให้มีมากยิ่งขึ้นด้วย

โปรดเพิ่มพูนความเชื่อของข้าพเจ้าในแต่ละวัน

ด้วยพระวาจาอันทรงชีวิตของพระองค์

“ในวันนี้ ถ้าท่านได้ยินเสียงของพระองค์ ก็อย่าทำใจแข็งเลย”

................................

S