“ใจของท่านทั้งหลายจงอย่าหวั่นไหวเลย
จงเชื่อในพระเจ้า และเชื่อในเราด้วย”
(ยอห์น 14:1-2)
อุปสรรค ขวากหนาวและปัญหา
เป็นเสมือนสัตว์ร้ายที่คอยแทะเล็ม ดูดเอาพลังของเราออกไป
เสียงที่คอยบั่นทอนชีวิตให้เราทดท้อ
ทุกครั้งที่เราเปิดโอกาสให้เสียงเหล่านั้นมีอำนาจเหนือเรา
ดวงไฟแห่งชีวิตของเราก็ค่อยๆริบหรี่ลง
ดวงใจมนุษย์นั้นช่างอ่อนไหวง่ายดายเหลือเกิน
พร้อมที่จะผิดพลาดพลัดหลงอยู่เสมอเมื่อห่างไกลผู้เลี้ยงที่ดี
เราต่างเสาะแสวงหาความสุข ความรักบนโลกใบนี้
แก่งแย่งแข่งขันช่วงชิงให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราปรารถนา
ความสุขและความรักที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรมนั้น
เกิดจากความอ่อนแอและความไม่มั่นคงในความเชื่อของเราเอง
พระเยซูเจ้าตรัสว่า
“เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา”
(ยอห์น 14:6)
พระเยซูเจ้าเน้นย้ำให้เรามีจิตใจที่มั่นคงในความเชื่อ
เดินตามเส้นทางที่จะนำเรากลับไปสู่บ้านของพระบิดา
รักษากายใจของเราให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
เมื่อกล่าวถึงการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
ข้าพเจ้าก็คิดถึงธรรมชาติที่พระช่างสรรสร้างขึ้นมา
แม้แต่ธรรมชาติยังรับรู้ และแสดงภาพลักษณ์ที่สะท้อนสิ่งดีดีให้เราได้เห็น
แล้วเราหละ เคยสะท้อนสิ่งดีดีอะไรให้กับคนรอบข้างได้สัมผัสบ้าง
พลังแห่งธรรมชาติ พลังของพระเจ้า
ข้าพเจ้าได้ดูเรื่องราวการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง
ดร.มาซารุ อิโมโตะ ผู้ศึกษาค้นคว้า ความสัมพันธ์ของน้ำ
และผลึกน้ำที่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม
ความรู้สึกและคำพูดของมนุษย์ที่แตกต่างกันไป
น้ำที่อยู่ในธรรมชาติ ในวิหาร วัด วาอาราม น้ำที่ได้รับฟังเพลงบรรเลงคลาสสิก
จะมีรูปผลึกน้ำที่สวยสดงดงาม
น้ำที่อยู่ในแหล่งสกปรก ปนเปื้อน น้ำที่ได้รับฟังเพลงร็อค
หรือเพลงแรงๆจะมีรูปร่างผลึกไม่สวยงามไร้รูปทรง
น้ำที่ถูกวางไว้ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันจะมีผลึกที่ต่างกัน
ท่ามกลางคำพูดที่เต็มไปด้วยความรักจะมีแฉกเหมือนเกล็ดหิมะ
ท่ามกลางคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ผลึกน้ำจะบิดเบี้ยวไร้รูปทรงและดูน่ากลัว
ธรรมชาติเป็นสิ่งสร้างของพระเจ้า
เป็นบทเรียนที่ถูกสอดแทรกไว้ให้มนุษย์ได้เรียนรู้ตลอดชีวิต
พระเจ้าสอนเราผ่านธรรมชาติ ให้เราเลือกที่จะคิดดี พูดดี และทำแต่สิ่งที่ดีดี
เพื่อให้การมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ของเรานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพร
แห่งการเตรียมหนทางสู่ชีวิตนิรันดร์ ณ บ้านพระบิดาเจ้าสวรรค์
“เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา”
(ยอห์น 14:6)
จะบรรเลง เพลงพิณ ด้วยยินดี
แด่องค์พระ ภูมี ผู้ยิ่งใหญ่
สรรเสริญ ด้วยใจภักดิ์ รักจากใจ
ทุกสิ่งพระ สรรให้ ไท้เมตตา
จะเดินตาม ทางชอบธรรม แม้ลำบาก
แม้นทุกข์ยาก ตรากตรำ ซ้ำอ่อนล้า
เพื่อรอรับ รางวัล พระเมตตา
สู่เคหา พระบิดา เป็นนิรันดร์
**แต่ช่วงที่ยังเดินทางบนโลกใบนี้อยู่
ข้าพเจ้าก็ตั้งใจว่าจะให้ทุกวันอาทิตย์เป็นวันของพระเจ้า
และจะไปเยี่ยมเยียนพระองค์ในบ้านของพระองค์บนโลกใบนี้ก่อน
เพื่อรอคอยบ้านที่แท้จริงในสวรรค์ที่พระองค์รอข้าพเจ้าอยู่**
“โปรดจารึกชื่อของลูกคนบาปกลับใจคนนี้ไว้ในสวรรค์ด้วยเถิด”
............................................ |