“เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว
ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย
ท่านเชื่อเช่นนี้หรือไม่”
(ยอห์น 11:25-16)
.........................................
ในวันที่ลาซาลัสตาย ในพระวาจาเขียนไว้ว่า พระเยซูเจ้าทรงกันแสง
ความตายเหมือนการพลัดพราก
แม้พระเยซูเจ้าจะทรงสามารถให้ชีวิตใหม่แก่ลาซารัสได้
แต่พระองค์ก็ยังสัมผัสถึงการสูญเสีย
และความรักที่มีต่อลาซารัสและครอบครัวของเขา
ทำไมพระเยซูเจ้าจึงทรงรักครอบครัวนี้
ข้าพเจ้าคิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังบ้านของมารีย์และมาร์ธา
มารีย์เตรียมอาหารสำหรับพระองค์ ในขณะที่มาร์ธามาปรนนิบัติพระองค์
มารีย์เรียกร้องให้มาร์ธามาช่วยเตรียมอาหารสำหรับพระเยซูเจ้า
แต่พระเยซูเจ้ากลับเตือนสอนมารีย์ว่าไม่ควรสาละวนอยู่กับกิจการฝ่ายโลก
ซึ่งมาร์ธาเลือกที่จะดูแลกิจการฝ่ายจิตมากกว่า
มารีย์ไม่โกรธคำเตือนสอนนี้
ความนบนอบเชื่อฟัง ความไว้วางใจของมารีย์ก็สอนใจเราด้วย
ความนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า
ทำให้เราเป็นครอบครัวเดียวกันกับพระองค์
ข้าพเจ้าดีใจที่เกิดมาในครอบครัวแห่งความรัก และพระพร
ข้าพเจ้าเป็นคนอ่อนแอทั้งใจและกาย
สิ่งนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า พระเจ้าทรงพระเมตตาต่อข้าพเจ้ามากมายนัก
บิดามารดาของข้าพเจ้ามีคำภาวนาเพื่อลูกหลานของท่าน
ท่านทั้งสองทำงานเพื่อพระศาสนจักร
และให้ภารกิจศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นของท่านเป็นพระพรเพื่อลูกหลาน
ข้าพเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับพระพรเหล่านั้นด้วยจริงๆ
ข้าพเจ้าเป็นคนบาป แต่ด้วยคำภาวนาของบิดามารดาของข้าพเจ้า
กลับลบล้างบาปโทษเหล่านั้น
จนข้าพเจ้าสัมผัสได้ถึงความรักของพระเจ้าผ่านคำภาวนาของบิดามารดาของข้าพเจ้า
บุคคลที่รายล้อมข้าพเจ้าล้วนเป็นพระพรของพระเจ้า
บุคคลที่น่ารักเข้ามาเป็นแบบอย่างชีวิตใกล้ชิดข้าพเจ้ามากมาย
บุคคลที่ดูไม่น่ารักก็เข้ามาสร้างประสบการณ์ให้ข้าพเจ้าแข็งแกร่งขึ้น
ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นพระพร
และไม่มีอะไรที่หนักหนาเกินข้าพเจ้าจะรับไหว
เพราะพระเจ้าทรงให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เหมาะสมกับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
ข้าพเจ้าได้รับชีวิตใหม่จากพระเจ้าเหมือนลาซารัสได้รับชีวิตใหม่
ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะเป็นบุคคลที่พระเจ้าทรงรักเช่นเดียวกับลาซารัสที่พระเจ้าทรงรัก
ในทุกๆเช้า ข้าพเจ้าหวังเพียงลืมตาตื่นขึ้นมา
และทำวันนั้นให้เป็นพระพรสำหรับคนรอบข้าง
พระพรที่ข้าพเจ้าได้รับมาพร้อมกับการมีชีวิตใหม่ในพระเจ้า
“ดูสิ พระองค์ทรงรักเขาเพียงใด”
(ยอห์น 11:36)
ดูสิพระองค์ทรงรักข้าพเจ้าเพียงใด
ข้าพเจ้าบอกกับเยาวชนกลุ่มหนึ่งว่า
หากเราจะรักใครสักคน
เราก็คงอยากที่จะเรียนรู้ความเป็นเขา ประวัติของเขา
วันเดือนปีเกิด สิ่งที่เขาชอบ ไม่ชอบ
เพื่อเราจะได้เลือกทำแต่สิ่งที่เขาพึงพอใจ
มีบทเพลงหนึ่งของคริสเตียน ขับร้องไว้ในเนื้อหาที่ว่า
“หากเรารักใครสักคน ก็พร้อมจะทำทุกอย่าง
ให้เขารู้ว่ารักมากเท่าไร
แต่บางครั้งที่เราพูดไป ว่ารักพระเจ้ามากมาย
เราได้ทำอะไรเพื่อพระองค์หรือยัง?
บอกพระองค์ได้ไหม สัญญาผ่านเพลงนี้ ให้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อพระองค์เท่านั้น
อยู่เพื่อรับใช้ และจะทำสุดหัวใจ
มอบถวายทั้งหมดที่มีเพื่อพระองค์...”
(เพลงอยู่เพื่อรับใช้)
https://www.youtube.com/watch?v=QpWoupNoR0E
“อิสราเอลจงหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงความรักมั่นคง
ทรงพร้อมเสมอที่จะช่วยให้รอดพ้น
พระองค์จะทรงไถ่อิสราเอลให้พ้นจากความผิดทั้งมวล”
(สดุดี 130:7-8)
พระเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคนอย่างดี เพราะทรงรักเรา
แต่เรารู้จักพระองค์มากน้อยเพียงใด และรักพระองค์จริงหรือ?
....................................................... |