“ขอพระหรรษทานและสันติสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด”

(1 เธสะโลนิกา 1:1)

ในสังคมปัจจุบัน บางทีข้าพเจ้าก็ไม่แน่ใจว่า

ความมีสันติสุขมันยังอาบอยู่ในดวงใจของมนุษย์หรือไม่

หรือสิ่งใดมาทำให้ดวงใจที่รักสันติสุขต้องจืดจางลง

เมื่อข้าพเจ้าได้อ่าน ฟัง และบอกต่อเรื่องราวข่าวคราวของสังคมโลกทุกวันนี้

ร้อยละ 90 เป็นข่าวร้ายที่ค่อยๆกัดกร่อนสันติสุขในดวงใจของมนุษย์ลง

 และน่าแปลกที่มนุษย์กลับให้ความสนใจกับข่าวร้ายนั้นอย่างจริงจัง

วัยรุ่นชายมักมีคำพูดแปลกๆ ออกแนวทะลึ่งตึงตังมาสนทนากับเพื่อน

หรือแม้แต่วัยรุ่นหญิงก็ยังมีไอดอลที่แต่งตัวยั่วยวนชวนฝันหวานมาให้กรี๊ดกร๊าดกันเสมอ

ทุกสภาพแวดล้อมที่เพาะบ่มจิตใจวัยรุ่น

ค่อยๆกัดกินดวงใจแห่งสันติสุขให้เลือนหายเจือจางไป

กิจการที่เกิดขึ้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีข่าวร้ายเพิ่มทวีขึ้นในทุกวัน

ข้าพเจ้าพยายามครุ่นคิดว่า จะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อหล่อหลอมดวงใจนี้ขึ้นใหม่

ดวงใจที่ขาดสันติสุข ดวงใจที่มีแต่ความแข็งกระด้าง

ข้าพเจ้าเคยคิดว่า ตัวเองมีพลังเพียงน้อยนิด

จะกระทำสิ่งใดได้เล่ากับมวลมนุษยชาติมากมาย

ใช่แล้ว  ข้าพเจ้ามีพลังเพียงน้อยนิด แต่พระเจ้าทรงมีพลังมหาศาลไร้ขอบเขต

ใช่แล้ว หากไร้พระองค์ลูกคงไม่อาจทำสิ่งใดได้เลยจริงๆ

ข้าพเจ้าอาจจะเป็นเพียงเม็ดทรายเล็กๆของอาคารหลังใหญ่โตมโหฬาร

แต่ข้าพเจ้าก็จะค่อยๆกระจายสันติสุข ความร่มเย็นใจไปทีละน้อยทีละนิด

ด้วยความอดทน  เพียรทน  ไม่สิ้นหวัง

หรือหากวันใดที่ข้าพเจ้ารู้สึกสิ้นหวัง ข้าพเจ้าก็มั่นใจว่า

ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ข้าพเจ้าจะกลับมาเข้มแข็งโดยเร็ววัน

เพื่อสันติสุขของบุคคลรอบข้างข้าพเจ้า หรือบุคคลที่ข้าพเจ้าสื่อสารด้วย

นักจิตวิทยาพฤติกรรมนิยมเชื่อว่า

มนุษย์จะเติบโตขึ้นมาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับการจัดกระทำและสภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อมนุษย์

คำพูดและการกระทำที่อยู่รอบตัวมนุษย์ล้วนมีอิทธิพลต่อมนุษย์ทั้งสิ้น

ข้าพเจ้าสังเกตช่วงชีวิตของตนเองที่เคยทำงานในกลุ่มคนประเภทต่างๆ

ทำงานกับคนร้อนลุ่ม นานวันเข้า ข้าพเจ้าก็รู้สึกถึงความร้อนลุ่ม

ใจร้อน หัวร้อน  หงุดหงิดง่าย

ทำงานกับคนที่มีความกระตือรือร้นตลอดเวลา

ข้าพเจ้าก็รู้สึกมีความกระตือรือร้นในการทำงาน มีพลังมากมายในการทำงาน

ทำงานกับคนที่พูดแต่สิ่งดีๆ พูดบวก มองบวก ให้กำลังใจ

ข้าพเจ้าก็รู้สึกถึงความมีสันติสุขในใจ ความอบอุ่นปลอดภัย เบิกบานใจ

ทำงานกับคนขี้เกียจเราก็จะรู้สึกน่าเบื่อหน่าย ขี้เกียจ ไม่มีพลังในการทำงาน

ดังนั้นแล้ว ข้าพเจ้าจึงมักจะบอกกับลูกๆเสมอว่า

เราอยากเป็นคนอย่างไรก็เลือกคบกับคนประเภทนั้น

อยากเป็นคนดี ใจเย็น  คิดเป็น  มองบวก ก็คบหาคนประเภทนั้นแล้วเราก็จะเป็นอย่างนั้น

แต่ที่สำคัญยิ่ง เราเป็นคนประเภทไหนสำหรับคนรอบข้าง

“พี่น้องทั้งหลายผู้เป็นที่รักของพระเจ้า

เรารู้ว่าท่านได้รับเลือกสรร”

(1 เธสะโลนิกา 1:4)

ข้าพเจ้าพยายามอย่างหนักเพื่อจะเป็นผู้ได้รับเลือกสรรที่มีคุณภาพบ้าง

ด้วยความรักและเมตตาของพระเจ้าผู้ทรงคอยผลักดันข้าพเจ้าอยู่เสมอ

ข้าพเจ้าปรารถนาจะเป็นบุคคลที่เป็นแสงสว่างให้คนรอบข้างได้

ดังที่พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ

เป็นแบบอย่างแห่งความรักและเมตตาตลอดมา

ตั้งแต่ได้  รู้จัก  ก็รักมาก

เหตุผลใด  ไม่อาจพราก   รักไปได้

ตั้งแต่มอบ ชีวิต และจิตใจ

ก็ไม่เคย  หวั่นไหว   สิ่งใดเลย

แม้อดีต  เลวร้าย  สักเพียงใด

รักช่วยให้  สิ่งเลวร้าย  ถูกวางเฉย

เพราะรักองค์  ทรงเคียงใกล้  ไม่ห่างเลย

สิ่งที่เคย พลาดผิด ไม่ติดใจ

ตั้งแต่ได้  รู้จัก  ก็รักมาก

จึงไม่มี สิ่งใดพราก จากรักได้

และไม่มี เหตุผล  เล่ห์กลใด

ถูกแฝงไว้  ให้วุ่นใจ  ในรักนี้

++องค์พระองค์พระเจ้า ทรงเป็นพละกำลัง และบทเพลงของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยข้าพเจ้าให้รอด++

.........................