“ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง
สงสัยทำไมเล่า”
(มัทธิว 14:31)
ข้าพเจ้าทราบแล้วว่า “ความเชื่อ” เป็นพระพรพิเศษ
ที่พระมอบให้เราแต่ละคนแตกต่างกันไป
หากแต่ว่า ความเชื่อ จะทวีมากขึ้น และเข้มแข็งยิ่งขึ้น
เมื่อเราผูกพัน มั่นคงในความรักต่อพระเจ้าผ่านการภาวนาวอนขอ
ข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ยังต้องภาวนาขอความเชื่อที่มั่นคงเข้มแข็งอยู่เสมอ
เพราะทุกครั้งที่ชีวิตต้องเผชิญกับอุปสรรคหรือปัญหาที่หนักหนาสาหัส
ข้าพเจ้าก็ยังคงสงสัย น้อยใจ ไม่เข้าใจในแผนการของพระเจ้าอยู่ดี
แต่ยังดีที่ในความสงสัย น้อยใจ ไม่เข้าใจ
ข้าพเจ้าก็ยังรู้ว่าวิญญาณข้าพเจ้าออกห่างจากพระเจ้าไม่ได้เลย
ท่ามกลางความเชื่อที่หวั่นไหว
อย่างน้อยขออย่าให้ใจต้องออกห่างจากพระองค์
ข้าพเจ้ามีญาติผู้พี่ท่านหนึ่งที่ข้าพเจ้าชื่นชมในความเรียบง่ายของเธอมาก
ตลอดชีวิตการทำงานจนปัจจุบันเธอเกษียณอายุการทำงานแล้ว
แต่ก็ยังคงทำงานต่ออีกด้วยผู้ใหญ่เห็นความขยันขันแข็งของเธอ
ตลอดเวลาที่ข้าพเจ้าได้ใช้ชีวิตการทำงานร่วมกับเธอ
เธอไม่เคยหยุดงานแม้แต่วันเดียว เธอแข็งแรง
เธอรับประทานอาหารที่ทางที่ทำงานจัดให้แม้หลายครั้งมันจะไม่อร่อยเลยก็ตาม
เธอไม่เคยบ่นว่า แม้ภาระการทำงานของเธอจะถูกเบียดเบียนจากรุ่นน้องบางคน
ถูกกดดันจากบางคนที่ดูเหมือนจะไม่ให้เกียรติเธอ
เธอทำทุกอย่าง อย่างเต็มความสามารถ เต็มที่
ทุกนาทีดูมีค่าสำหรับการทำงานของเธอจริงๆ ตั้งแต่เช้ามืด ยันตะวันลับฟ้า
ไม่เคยมีคำปริปากบ่น หรือต่อว่า โต้เถียงใดๆจากปากของเธอเลย
หลายครั้งที่ข้าพเจ้าบอกเธอว่า เธอช่างโชคดีจริงๆที่ไม่เคยเจ็บป่วย
และมีพลังเหลือเฟือในการทำงานที่หนักหนาสำหรับคนที่มีอายุขนาดนี้
เธอบอกแก่ข้าพเจ้าว่า เพราะพระอวยพรเธอ
และพระคงรู้ว่าเธอไม่มีสมบัติพอที่จะเจ็บไข้ได้ป่วย
ข้าพเจ้าก็มั่นใจเช่นนั้นว่า พระอวยพรเธอจริงๆ
เพราะความเชื่อของเธอเข้มแข็งมาก
เธอมาถึงที่ทำงานแต่เช้ามืดเพื่อร่วมมิสซาทุกเช้าที่มีในทุกวันจันทร์ถึงวันพุธ
เธอเข้ากลุ่มพลมารีและเธอก็ซื่อสัตย์ต่อการสวดภาวนามากที่สุด
ข้าพเจ้าเชื่ออย่างสนิทใจแล้วว่า
ผู้ที่มีความเชื่อจะมีพลังพิเศษในการดำเนินชีวิต
แม้มีอุปสรรคใดถาโถมเข้ามา ความเชื่อของเขาก็จะไม่สั่นคลอนเลย
เขาจะเจริญชีวิตอยู่ภายใต้การปกปักษ์รักษาของพระเจ้า
เพราะเขามี “ความเชื่อ”
ขอให้ ใจข้านี้ มีความเชื่อ
ทุกๆ เมื่อ ขอพระ ประทานให้
แม้ขวากหนาม ตามทาง ก้าวย่างไป
ด้วยไว้ใจ ในความเชื่อ เอื้อวิญญาณ์
แม้ข้าพเจ้าอาจจะปฏิบัติกิจศรัทธาไม่ได้มากมายเช่นบรรพบุรุษแห่งความเชื่อ
แต่ข้าพเจ้าก็มั่นใจในพระเมตตา และความพยายามเดินทางของตนเอง
ที่จะอยู่ในเส้นทางแห่งคำสอนของพระคริสตเจ้า
มีความพยายามที่จะพัฒนา กลับใจ ปรับปรุง ตนเองอยู่เสมอ
แม้ในบางคราที่หลงเดินนอกเส้นทางไปบ้างด้วยความกระหายหาความสุขของตน
บนความอ่อนแอของความเป็นมนุษย์
แต่ด้วยพระเมตตา พระองค์ก็ทรงเรียกข้าพเจ้ากลับมาให้ตรงทางเสมอ
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เรามิได้บอกท่านหรือว่า
ถ้าท่านมีความเชื่อ ท่านจะเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า”
(ยอห์น 11:40)
หน้าที่ของเราคือการใช้ความเชื่อในการดำเนินชีวิตของตน
แต่ความสำเร็จและปฏิหาริย์เป็นงานของพระเจ้าสำหรับผู้ที่เชื่อ
แม้ในใจ ใคร่ครวญ ชวนสงสัย
แต่อื่นใด เชื่อใน ปฏิหาริย์
รวมถึงพระ เมตตา สุดประมาณ
พระเมตตา พาพบพาล การสิ่งดี
..................................... |