พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่ง
กลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์”
(โรม 8:28)
เมื่อคนบาปกลับเป็นผู้ชอบธรรม
เป็นบุญของผู้ที่มีใจสุภาพอ่อนโยนพอที่จะสำนึกตัวในความผิดบกพร่องของตน
เพราะพระเมตตาและการปกปักษ์รักษาเยียวยาจากพระเจ้า
จะหลั่งรินมายังเขาอย่างไม่ขาดสาย
หญิงคนบาปกลับใจและพระองค์ทรงเมตตาอภัยบาปผิดให้
คุณค่าของชีวิตก็ถูกเติมเต็มอีกครั้งอย่างสมบูรณ์
รอยบาปผิดแม้จะยังติดตรึงฝังอยู่ในใจ
แต่ก็เป็นเพียงร่องรอยบาดแผลเพื่อให้ระลึกได้
ว่าครั้งหนึ่งเธอเคยเดินผิดพลาด และจะไม่กลับไปผิดพลาดซ้ำเช่นนั้นอีก
สำคัญยิ่งร่องรอยแห่งบาดแผลนั้น จะทำให้ใจรับรู้ถึงความรักยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ใจที่ถ่อมตนพร้อมจะให้อภัยเพื่อนมนุษย์ด้วยรู้คุณค่าของการได้รับการให้อภัย
ข้าพเจ้าก็เป็นมนุษย์ที่อ่อนแอคนหนึ่งที่พร้อมจะผิดพลาดอยู่เสมอ
มีอารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่ภายในแม้จะไม่ได้แสดงมันออกมา
ข้าพเจ้าก็รู้ว่าในรอยยิ้มของตนบางครั้งภายในก็แฝงไปด้วยเงาร้ายของปีศาจ
เพราะชีวิตที่ปราศจากความรักเพื่อผู้อื่นก็มาจากใจที่ยังรักตัวเองไม่มากพอ
ข้าพเจ้าสังเกตว่า ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าคิดลบ คิดไม่ดี คิดทำร้ายใครแม้เพียงเล็กน้อย
หรือแม้เพียงแค่คิด ข้าพเจ้าก็ขาดความรักต่อตนเองแล้ว
เพราะข้าพเจ้ากำลังใส่ยาพิษลงไปในใจของตนเอง
เมื่อรักตัวเอง ใส่ใจให้ตนเองคิดดี พูดดี ทำดีไม่ได้แล้ว
จะถ่ายเทความรักของพระเจ้าไปสู่เพื่อนมนุษย์ หรือคนรอบข้างได้อย่างไร
ข้าพเจ้าจัดป้ายนิเทศในหัวข้อศาสนาคริสต์ ศาสนาแห่งความรัก
สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจในรูปแบบของความรักในศาสนาคริสต์
ว่าเป็นความรักที่งดงาม เพราะเป็นความรักเพื่อผู้อื่น
เหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำไว้เป็นแบบอย่าง
ข้าพเจ้าชอบถ้อยคำหนึ่งที่กล่าวว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
เพราะเราจะไม่เอาตัวรอดไปสวรรค์แต่เพียงผู้เดียว เราจะต้องไปด้วยกัน
ผู้ชอบธรรมอยู่ที่ใดย่อมหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความชอบธรรมลงที่นั่น
ที่ๆร้อนระอุดังเปลวไฟผู้ชอบธรรมย่อมเป็นดัง
หยาดน้ำแห่งความรักรินรดความฉ่ำเย็นลงที่นั่นด้วย
“ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์บรรเทาใจข้าพเจ้า
ดังที่ทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์”
(สดุดี 119:76)
คุณพ่อวัชศิลป์ กิจเจริญ ส่งข้อความเสียง
บทสัมภาษณ์ชายหนุ่มท่านหนึ่งมาให้ข้าพเจ้าฟัง
เป็นเสียงของศิษย์เก่าจากโรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์
โรงเรียนที่ข้าพเจ้าทำหน้าที่ของครูตัวน้อยๆของพระเจ้าที่นั่น
ชายหนุ่มผู้ให้สัมภาษณ์เป็นศิษย์เก่าที่จบไปหลายรุ่นแล้ว
ปัจจุบันจบการศึกษารับปริญญาเอก และเป็นคริสตังยืน
ข้าพเจ้าฟังบทสัมภาษณ์และเรื่องราวบอกเล่าการเดินทาง
ฝ่ายวิญญาณของศิษย์เก่าท่านนี้
เขาเล่าถึงการถูกหล่อหลอมให้ซึมซับความรักของพระเจ้าจากโรงเรียนคาทอลิก
และแผนการที่น่าทึ่งของพระเจ้าในการเรียกเขา
เข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกับครอบครัวคาทอลิก
ตลอดการเดินทางของชีวิตในทุกเหตุการณ์
ข้าพเจ้าฟังแล้วรู้สึกมีความสุขใจ สุขใจที่ได้ฟังเรื่องราวอัศจรรย์ใจนี้
แต่นั่นก็เป็นแค่การได้ฟัง มิใช่การได้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการนี้เลย
หากข้าพเจ้าไม่ลงมือที่จะกระทำบ้าง
ข้าพเจ้ามีศิษย์มากมายในมือ ที่อย่างน้อยก็มี 2 – 3 คนที่สนใจเรียนรู้
และต้องการมีประสบการณ์ชีวิตฝ่ายจิตกับพระเจ้า
ในขณะที่ข้าพเจ้าทำได้แค่เพียงยืนยินดีอยู่นิ่งๆ
แทนที่จะกระตือรือร้นมอบประสบการณ์ชีวิตฝ่ายจิตดีๆให้พวกเขา
เซอร์ที่เคารพท่านหนึ่งฝากให้ข้าพเจ้าดูแลนักเรียนชายคนหนึ่ง
ที่มีความสนใจในศาสนาคริสต์
เด็กหญิงวัยรุ่นผู้มีใจอ่อนโยนคนหนึ่งมาบอกข้าพเจ้าว่าอยากเรียนคำสอน
อยากรู้จักพระเจ้า แม้ในช่วงแรกๆทางบ้านจะไม่สนับสนุนก็ตาม
เพื่อนหญิงของลูกชายปรารถนาจะเรียนคำสอน
ในขณะที่เธอเองก็ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า
ทุกเหตุการณ์ล้วนท้าทายความเข้มแข็งของใจของผู้ประกาศข่าวดี
ที่อ่อนแอเฉกเช่นข้าพเจ้ายิ่งนัก
ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรได้เพื่อให้พระเจ้าเข้าไปประทับอยู่ในใจของพวกเขา
แต่ถึงกระนั้น ข้าพเจ้าก็จะต้องทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวดีให้เต็มที่
เป็นแม่ฝ่ายวิญญาณของลูกๆเหล่านั้นให้ได้
โดยอาศัยพลังจากพระเจ้าที่จะนำทาง นำวิธีการที่ดีที่สุดไว้ในมือของข้าพเจ้า
เหตุการณ์ต่างๆทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น
ในการเห็นความสำคัญของวิชาคริสต์ศาสนาที่หลายคนไม่เห็นคุณค่า
ในการเห็นความสำคัญของบรรยากาศคาทอลิกในรั้วโรงเรียนคาทอลิก
ที่หลายครั้งถูกละเลยจนลืมจิตตารมณ์ของโรงเรียนคาทอลิกไปเสียสิ้น
และแม้ในอนาคตข้าพเจ้าอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียนคาทอลิก
แบบอย่างของชีวิตคริสตชนที่ดีขอให้อย่าเจือจางไปจากใจข้าพเจ้าได้เลย
แม้ในวันที่อาจจะหลงทางออกไปบ้างก็ตาม
“ดังนั้น ธรรมาจารย์ทุกคนที่มาเป็นศิษย์แห่งอาณาจักรสวรรค์
ก็เหมือนกับเจ้าบ้านที่นำทั้งของใหม่และของเก่าออกจากคลังของตน”
(มัทธิว 13:52)
cอย่าให้ความรักในพระเจ้านั้นเจือจาง
อย่าให้เส้นทางพระเคียงข้างต้องร้างไร้
อย่าให้ความมืดเข้าปกคลุมทั่วหัวใจ
อย่าให้ใครต้องเปลี่ยวไร้ในพระพร
..................................... |