“เพราะพระคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา
ขณะที่เรายังเป็นคนบาป”
(โรม 5:8)
ครอบครัวหนึ่งที่ค่อนข้างยากจนมีบุตรห้าคน
เขาตกลงใจที่จะใช้เงินที่มีไม่มากนัก
ในการเลือกที่จะส่งเสียลูกคนที่ฉลาดที่สุดในครอบครัว
เพื่อให้บุตรคนนั้น ได้มีอนาคตที่ดี เผื่อว่าเมื่อเขาจบการศึกษาและมีการงานที่ดีทำแล้ว
เขาจะได้กลับมาเลี้ยงดูครอบครัวของเขาให้กินดีอยู่ดีมากขึ้น
อันที่จริงก็คงจะเหมือนกับ คนดี ที่ใครๆก็รัก ใครๆก็เอื้อเอ็นดู
แต่คนบาป หรือที่เราตัดสินว่าเขาเป็นคนบาป
เราก็จะรู้สึกแคลงใจเมื่ออยู่ใกล้ หรือระแวงสงสัยที่จะคบหาสมาคมด้วย
แต่พระเยซูเจ้าไม่ได้รักเฉพาะคนดีเท่านั้น
ใต้แผ่นฟ้า พระเจ้าทรงให้แสงอาทิตย์สาดส่องทั่วทั้งคนชั่วและคนดี
ใต้แผ่นฟ้าพระเจ้าทรงให้สายฝนตกเหนือทั้งคนชั่วและคนดีเท่าเทียมกัน
ความเที่ยงธรรมของพระเจ้ามีอยู่เหนือมนุษย์เท่าเทียมกันทุกคน
และสุดท้ายพระบุตรผู้ทรงบังเกิดมาก็สิ้นพระชนม์เพื่อเรา
ในขณะที่เรายังเป็นคนบาปอยู่
พระองค์ให้เวลาเราในการกลับคืนดีกับพระองค์
ด้วยการให้ความรัก และเสียสละพระองค์เองแก่เราก่อน
แล้วตัวเราได้ลงแรง ลงมือกระทำสิ่งดีใดเพื่อตอบแทนน้ำใจดียิ่งใหญ่นั้นบ้าง
เรายังคงดำเนินชีวิตอยู่บนความผิดพลาด
ความปรารถนาฝ่ายเนื้อหนัง ความต้องการที่ไม่รู้จบสิ้น
อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงสอนให้เรารู้จักทำมาหากิน
ใช้แรงกายแลกการยังชีพของตนอย่างยุติธรรม ไม่เบียดเบียนใคร
เมื่อเกือบสิบปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้ฟังข่าวๆ หนึ่ง
เป็นข่าวการฉ้อโกงประชาชนของบุคคลคนหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคยรู้จัก
ในอดีต สมัยที่ข้าพเจ้ายังเล็ก ข้าพเจ้าเคยประทับใจในตัวบุคคลคนนี้มาก
เขามีเมตตากับข้าพเจ้า และมีเมตตาต่อเด็กๆหลายคนด้วย
และจู่ๆ การได้ฟังข่าวของเขาอีกครั้ง กลับกลายเป็นข่าวร้าย
ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกตกใจและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตนได้เห็นและได้ฟังจากข่าวเลย
ข้าพเจ้าสงสัยเหลือเกิน ว่าเขาเริ่มต้นด้วยกิจการใดกัน
จึงนำพาเขาให้ถลำลึกตกลงไปในหุบเหวของการทำร้ายผู้อื่นได้ขนาดนี้
ถ้าเราไม่เริ่มต้นด้วยบาปเล็กๆ บาปใหญ่ๆก็จะไม่เกิดขึ้น
ถ้าเราหยุดมันได้ก่อนที่มันจะกลายเป็นบาปหนัก
ถ้าเราคิดให้รอบคอบ ถี่ถ้วนก่อนที่จะกระทำสิ่งนั้นลงไป
เราก็จะผิดพลาดน้อยลง
ชีวิตที่ผ่านมาเกือบค่อนชีวิตของพี่ท่านนั้น กลับต้องไปใช้ชีวิตที่เหลือในคุก
เพราะจุดเริ่มต้นที่ผิดพลาดอาจจะเพียงเล็กน้อย แต่เห็นว่าไม่เป็นไร
ผิดสักครั้งสองครั้งก็ไม่เป็นไร
จึงนำไปสู่ความผิดพลาดที่ใหญ่กว่า หนักกว่า และกลับแก้ไขได้ยากกว่า
อย่างไรก็ตาม หากเราทำผิดพลาดแล้วเรารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนทำ
ก็คงยังจะดีกว่า คนที่ทำผิดพลาดแต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
ข้าพเจ้าคิดว่า การได้ฝึกไตร่ตรองมโนธรรมของตนเอง
ก็เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยยั้งคิดยั้งทำในสิ่งที่ไม่ควร ไม่ถูกต้องได้
อีกข่าวหนึ่ง คือข่าวที่โจรบุกยิงประชาชนในห้างและปล้นทองไป
ในขณะที่ข่าวกำลังร้อนในสังคม
ฆาตรกรกลับนั่งดูข่าวตัวเองกับครอบครัวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
เกิดอะไรขึ้นกับมโนธรรมของมนุษย์ในการละอายต่อบาปไปเสียแล้ว
พระคริสตเจ้าทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราในขณะที่เราเป็นคนบาป
แต่เราก็ควรที่จะเป็นคนบาปที่มีสำนึกของคนบาปอยู่เสมอ
มีสำนึกของความพร้อมที่จะกลับตัวกลับใจ
มีสำนึกของความละอายต่อบาปที่ตนกระทำลงไป
“ท่านทั้งหลายจงฟังพระสุรเสียงของพระองค์ในวันนี้เถิด
ท่านอย่าทำใจแข็งกระด้างเหมือนกับที่เกิดขึ้นที่เมรีบาห์
เหมือนในวันนั้นที่มัสสาห์ในถิ่นทุรกันดาร”
(สดุดี 95:7-9)
ที่มัสสาห์และเมรีบาห์ในพันธสัญญาเดิม
คือที่ที่ประชากรของพระเจ้าดื้อรั้นต่อพระเจ้าเพียงเพราะความรู้สึกกระหายน้ำ
พวกเขาเอาเรื่องโมเสสและต่อว่าพระเจ้า
ในถิ่นทุรกันดารนั้น พวกเขาลืมสิ้นถึงพระเมตตาของพระเจ้าอย่างง่ายดาย
ที่ปลดปล่อยพวกเขาจากความเป็นทาสในอียิปต์
ข้าพเจ้ามองดูตัวเองเช่นกัน
ในวันที่ข้าพเจ้าได้รับสิ่งดีๆ ข้าพเจ้าก็รื่นเริงบันเทิงใจกับสิ่งที่ตนได้รับ
แต่วันใดที่ข้าพเจ้าต้องพบกับอุปสรรค
ข้าพเจ้ากับรำพึงรำพันบ่นว่าถึงความไม่ยุติธรรมของพระเจ้า
แม้จะไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน
แต่ข้าพเจ้าสัมผัสได้ดีถึงความใจแข็งกระด้างของตนเอง
การเปรียบเทียบ การรู้สึกอิจฉาริษยาคนที่มากกว่า เยอะกว่า ดีกว่า
สิ่งเหล่านั้นทำให้จิตวิญญาณของข้าพเจ้ามืดบอดและสกปรก
แต่พระคริสตเจ้าทรงมีเมตตาต่อข้าพเจ้าผู้เป็นคนบาป
ในความอ่อนแอของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ยังรู้ว่า ข้าพเจ้าต้องพึ่งพาพระองค์
พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยเหลือข้าพเจ้าให้ขาวสะอาด
จากการชำระล้าง จากธารน้ำแห่งชีวิตของพระองค์
พระองค์ทรงตรัสตอบข้าพเจ้าเหมือนตรัสตอบหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำของยาโคบ
พระเยซูเจ้าตรัสตอบนางว่า “หากท่านรู้จักของประทานของพระเจ้า
และรู้จักผู้ที่บอกท่านว่า ‘ขอน้ำดื่มสักหน่อยเถิด’ท่านคงกลับเป็นผู้ขอ
และผู้นั้นจะให้ ‘น้ำที่ให้ชีวิต’ แก่ท่าน”
(ยอห์น 4:10)
"เปลี่ยนจิตใจลูกเถิด โปรดให้เป็นหัวใจ
ที่มีไฟรักยิ่งใหญ่ เหมือนหัวใจพระองค์"
..................................... |