“เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์”

(ลูกา 2:32)

วันแห่งการรอคอยของผู้เฒ่าสิเมโอนที่จะได้พบพระกุมารน้อยเยซูเจ้า

ผู้เฒ่าสิเมโอน ผู้รอคอยด้วยความเชื่อ ด้วยความหวัง และความศรัทธา

ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่าวันที่รอคอยนั้นคือวันใด และอีกยาวนานเท่าไหร่

จวบจนพระแม่มารีย์และนักบุญยอแซฟกระทำให้การรอคอยนั้นสำเร็จลง

ด้วยการนำพระกุมารมายังพระวิหาร

และผู้เฒ่าซีเมโอนได้พบพระกุมารน้อยสมดังที่ปรารถนาไว้

ความเชื่อและความหวังทำให้เรามีพลังเดินไปสู่เป้าหมายอย่างอดทน

ความศรัทธาทำให้เรามั่นใจในสิ่งที่เรามองไม่เห็น

และผลของความศรัทธาคือเราได้เห็นในสิ่งที่เราศรัทธานั้น

เหมือนผู้เฒ่าสิเมโอนที่มีความเชื่อ ความหวัง และความศรัทธาในพระจิตเจ้าผู้นำทาง

ว่าเขาจะไม่ตายก่อนที่จะได้เห็นพระคริสตเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

และพระจิตเจ้าก็ทรงนำพาเขาไปพบพระกุมารน้อยเยซู

การเดินทางของพระแม่มารีย์และนักบุญยอแซฟ

ในการนำพาพระกุมารน้อยเยซูมายังพระวิหาร

และการนำพาของพระจิตเจ้าสำหรับสิเมโอนเพื่อมาพบพระกุมารน้อย

ล้วนเป็นแผนการในช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ผู้มีความเชื่อ ความหวังและความศรัทธา

จะได้รับรางวัลอันสวยงามนี้

องค์พระเจ้าทรงมีแผนการที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่เดินในทางของพระองค์เสมอ

แม้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็จะสำเร็จไปได้ในองค์พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ช่วย

เพียงแต่เรารู้จักรอคอยด้วยความเชื่อ ความหวังและความศรัทธาที่มั่นคงพอ

ตลอดชีวิตข้าพเจ้าที่ผ่านมา มีหลายครั้งที่ข้าพเจ้ามีความเชื่อที่อ่อนแอ

ความหวังที่เหมือนจะมอดดับอยู่เสมอ และความศรัทธาที่ริบหรี่

แต่ในทุกครั้งข้าพเจ้าสัมผัสได้ว่าท่ามกลางความอ่อนแอของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงรู้ว่าข้าพเจ้าพยายามมากเพียงใดที่จะเอาชนะความอ่อนแอเหล่านั้น

ดังนั้นแล้ว แม้บางช่วงเวลาที่ข้าพเจ้าอ่อนแอไปบ้าง

พระองค์จะทรงเยียวยารักษา จุดประกายไฟผ่านเหตุการณ์พิเศษๆเสมอ

เมื่อบุตรชายของข้าพเจ้าเริ่มเข้าสู่วัยที่พร้อมเริ่มต้นจะมีคู่ชีวิต

เขานำเพื่อนหญิงของเขามาแนะนำให้ข้าพเจ้ารู้จัก

เพื่อนหญิงของเขาไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์เช่นครอบครัวของเรา

และมันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวของเรา

แต่เรารู้สึกไว้วางใจในแผนการของพระเจ้าเสมอ

ว่าในเวลาที่เหมาะสม พระองค์จะทรงจัดการให้ทุกอย่างราบรื่นสำหรับผู้ที่รักพระองค์

บุตรชายของข้าพเจ้าเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้

ซึ่งมันทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกสบายใจ และขอบคุณพระเจ้า

ที่เมตตาไม่ให้ข้าพเจ้าต้องลำบากใจมากเกินไป

ดังนั้น เมื่อเขาเลือกที่จะคบหากับเพื่อนหญิงคนนี้แล้ว

เขาจึงพยายามจะพาเพื่อนหญิงของเขามาร่วมมิสซาในทุกวันอาทิตย์

พร้อมกับครอบครัวของเราเสมอๆ

วันเวลาผ่านไป ความมั่นคงในการดูแลรักษาจิตวิญญาณของกันและกัน

ก็ยิ่งทำให้ข้าพเจ้ามั่นใจในแผนการของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะในท่ามกลางความเจ็บป่วยของเพื่อนหญิงของเขา

ก็ยิ่งทำให้ทางครอบครัวของเธอนั้น

เปิดโอกาสให้เราได้พาเธอเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาของเรามากขึ้น

เธอเริ่มต้นจากการซักถาม เมื่อสงสัย  ร่วมร้องเพลงในวัด

ช่วยกดรีโมทเปลี่ยนบทเพลงขึ้นจอ

เข้าสู่ปีที่สามแล้วในปีนี้ ที่เธอเข้ามาอยู่ในบรรยากาศแห่งพระพรของเรา

“ครอบครัวคริสตชน”

เธอเริ่มซักถาม  กลับไปขออนุญาตพ่อและแม่ของเธอ และขอเรียนคำสอน

ซึ่งส่วนหนึ่งข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิใจในบุตรชายของข้าพเจ้ามาก

ที่เขามีความเชื่อที่มั่นคงพอที่จะยืนหยัดความรัก

ความศรัทธา และความหวังใจในพระเจ้าเสมอ

มากพอที่จะนำพาวิญญาณของใครอีกสักคนหนึ่งกลับเข้ามาเดินในทางแห่งพระพรได้

แต่ในความชื่นใจก็ยังต้องมีการรอคอยด้วยความหวังอยู่เสมอ

และหากบางช่วงเวลาข้าพเจ้าอาจจะรับรู้ได้ถึงความผิดหวัง

การรอคอยที่อาจจะไม่สมหวัง หรือแม้แต่ความตกต่ำของชีวิตที่อาจจะเกิดขึ้น

สิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นเพียงการทดลองเพื่อนำพาไปสู่ความเข้มแข็งที่มากกว่า

ก่อนที่จะได้รับรางวัลแห่งชีวิตสมกับการรอคอยนั้น

ข้าพเจ้ากำลังคิดไปถึงคำอวยพรในเทศกาลพระคริสตสมภพ

ที่มักกล่าวกันว่า Merry Christmas

มันเป็นคำที่แสดงถึงการเฉลิงฉลองอย่างชื่นชมยินดี

แม้ว่าบางคนอาจจะใช้คำนี้ไปโดยไม่ได้คิดถึงพระกุมารน้อยเยซูเจ้า

ผู้เป็นต้นเหตุของความยินดีนี้เลยก็ตาม

การบังเกิดมาของพระเยซูเจ้า สอนใจเราให้เราเดินตามทางของพระองค์

ที่ไม่ใช่ทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เป็นเส้นทางขวากหนาม

ที่เราจะต้องดั้นด้นผ่านไปให้ถึงจุดหมายปลายทางจนได้

การดั้นด้นไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง

ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธาของผู้เชื่อนั้น

ย่อมเป็นหนทางที่มีแสงสว่างนำทางเสมอ

กว่าเราจะได้มาซึ่งความสุขบนคำว่า Merry นั้น

เราก็ต้องผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกันทั้งสิ้น

เหมือนที่พระกุมารน้อยเยซูเจ้า ทรงผ่านความทุกข์ยากมาตั้งแต่บังเกิดจนสิ้นพระชนม์

ข้าพเจ้ากำลังจะได้รับปริญญามหาบัณฑิตในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้

เพื่อนๆเริ่มนัดกันทานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้

ความสำเร็จที่ผ่านความทุกข์ยากจากการเรียน

ผสมผสานกับการทำงานครบ 7 วันในหนึ่งสัปดาห์

ความสำเร็จที่ผ่านน้ำตาแห่งความผิดหวัง

เมื่อบางวิชาเรียนเราไม่เข้าใจแต่เราต้องการเกรดที่ดีมากพอ

ความสำเร็จที่ผ่านความพยายามในการเรียนรู้ ค้นคว้า อย่างหนักหน่วง

ความสำเร็จที่ผ่านการฝึกความสุภาพนบนอบต่ออาจารย์ให้มากพอ

ที่จะไม่โต้แย้งในสิ่งที่อาจารย์นำเสนอให้เพื่อฝึกฝนเรา

ความสำเร็จที่ผ่านการฝึกสละน้ำใจตนเองเพื่อช่วยเหลือเพื่อน

ที่มีความสามารถแตกต่างกันไป

ความสำเร็จที่ต้องทำการบ้านท่ามกลางความกดดันของหน้าที่การงานหลัก

และภาระงานหลักที่ต้องรับผิดชอบ

ทั้งหน้าที่ของความเป็นแม่ ความเป็นภรรยา ความเป็นลูก

ความเป็นครู ความเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี และความเป็นนักศึกษา

ดังนั้นแล้วข้าพเจ้าจึงเข้าใจถึงความหมายของการเฉลิมฉลองมากยิ่งขึ้น

เพราะการเฉลิมฉลองที่มีคุณค่านั้น มักมาจากความยากลำบาก

ที่ต้องใช้ความพยายาม ความอดทน จนกระทั่งพบความสำเร็จ

หรือบรรลุป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นแล้ว

ชีวิตของเราก็เช่นกัน

มันคงจะไม่มีคุณค่าเลย ถ้าชีวิตจะสวยหรู อยู่สบาย ง่ายๆในชีวิต

และการเฉลิมฉลองก็คงไม่มีคุณค่าใดๆ

หากไม่ผ่านความยากลำบากแล้วได้ความสำเร็จนั้นมาครอบครอง

.....................................