“เมื่อเจ้าเห็นดังนี้ก็จะปลาบปลื้ม

ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและยินดี”

(อิสยาห์ 60:5)

เมื่อสัปดาห์ก่อนวันพระคริสตสมภพ

ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ใจด้วยมีการเปลี่ยนแปลงภาระงานจากทุกปีที่เคยเป็น

แต่ด้วยเสียงที่ก้องอยู่ในใจ

“จงสุภาพนบนอบต่อผู้ใหญ่อยู่เสมอ”

ข้าพเจ้าจึงพยายามปรับเปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง

เพื่อให้ภารกิจที่จะต้องกระทำนั้น เป็นภารกิจแห่งความรัก

ภารกิจแห่งความรัก บางทีก็ไม่ได้ตรงใจเราเสมอไป

หรือบางครั้งอาจจะฝืนต่อความรู้สึกเราจนเกินจะรับได้

ครั้งนี้ ข้าพเจ้าพยายามปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย

ซึ่งยอมรับว่ามันค่อนข้างหนักสำหรับข้าพเจ้า

ด้วยการคิดถึงวันที่จะได้หยุดพักผ่อนในช่วงหลังเทศกาลพระคริสตสมภพ

แต่กลับกลายเป็นว่าในวันสุดท้ายของภารกิจแห่งรัก

ก็ยังมีภารกิจเร่งรีบอื่นๆตามติดมาอีก

เป็นเหตุทำให้ข้าพเจ้าไม่มีเวลาตระเตรียมตัวเองในการเดินทางพักผ่อนเลย

ไม่มีแม้กระทั่งเวลาในการวางแผนการเดินทาง

ข้าพเจ้าเตรียมกระเป๋าอย่างเร่งรีบเพื่อไปให้ทันวันของครอบครัว

วันที่พ่อและแม่รอคอยพบหน้าลูกหลาน

ทุกกิจการสำหรับข้าพเจ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แต่เต็มไปด้วยแผนการของพระเจ้า

ถึงเวลาแห่งการพักผ่อนอย่างจริงจังของข้าพเจ้าเสียที

ข้าพเจ้าออกเดินทางอย่างไม่ค่อยพร้อมสักเท่าไหร่

ด้วยกายก็ป่วย ใจก็ยังไม่หายป่วยดี

แถมยังไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีที่พักล่วงหน้า ทั้งๆที่เป็นช่วงเทศกาล

ซึ่งการหาที่พักนั้นยากที่สุด

สามีของข้าพเจ้าขับรถพาท่องเที่ยวรายทางไปเรื่อยๆ

ชมธรรมชาติ ชมพฤกษ์ไพรในแถบบริเวณรอบเขาค้อ

เราแวะถามหาที่พักบนเขาค้อ แต่ละที่เต็ม และบางที่ก็ไม่พอสำหรับครอบครัว

ไม่มีที่ว่างสำหรับครอบครัวข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าแอบคิดถึงพระกุมารน้อยเยซู

ตอนที่พระองค์ไม่มีที่พักพิงในค่ำคืนที่จะทรงบังเกิดมา

สามีข้าพเจ้าขับรถตะเวนหาที่พักไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งมาสะดุดตาป้ายข้างถนน “บ้านพระหฤทัย”

ข้าพเจ้ารีบบอกให้สามีถอยรถกลับไปที่บ้านพระหฤทัย

จำได้ว่าเพื่อนครูเคยมาถ่ายรูปที่นี่สวยมาก

เราแวะชมบรรยากาศรอบบ้านพระหฤทัยซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนเขาค้อ

รู้สึกดีเหมือนมาเที่ยวบ้านของตัวเอง

เดินถามหาแม่บ้านและปรึกษาเรื่องที่พักบริเวณนี้

แม่บ้านน่ารักมาก เหมือนเจ้าของโรงแรมที่น่ารักคนนั้นเลย

คนที่นำพาครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ไปยังคอกสัตว์ ที่พักสุดท้ายในค่ำคืนนี้

แม่บ้านซึ่งต่อมาข้าพเจ้าทราบแต่ชื่อเธอว่าชื่อ พี่มารี(เขียนอย่างนี้ไหมนะ)

พี่มารีจัดหาห้องพักให้อย่างดี กว้างขวาง และสงบร่มเย็นใจ

แต่ก็นั่นแหละ ข้าพเจ้ามีที่พักที่สวยงาม สบาย และน่าอยู่มาก

แต่พระกุมารน้อยเยซูสิ ต้องบังเกิดในคอกสัตว์ที่ต่ำต้อย

ที่นอนอาจจะอบอุ่นแต่ก็คงระคายผิวด้วยเศษฟางหญ้า และกลิ่นต่างๆ

ข้าพเจ้ารู้สึกอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

กับแผนการของพระเจ้าสำหรับข้าพเจ้า

ตั้งแต่วันที่ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายภารกิจที่ทำให้ข้าพเจ้าทุกข์ใจ

ในวันพระคริสตสมภพที่ควรจะเป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี

แต่มันดูจะเป็นภารกิจอันหนักหน่วงสำหรับข้าพเจ้า

แต่ทุกแผนการของพระเจ้า ย่อมมีสิ่งที่ดีกว่า และเหมาะสมกว่าสำหรับข้าพเจ้า

และสำหรับลูกๆอันเป็นที่รักของพระองค์

ในวันแห่งการพักผ่อน แม้กายจะยังป่วยแต่ก็รู้สึกดีขึ้นตามลำดับ

อาจจะเพราะได้รับการเยียวยาทางใจประสานด้วยก็เป็นได้

ค่ำคืนที่ ที่พักต่างๆแน่นขนัด

ข้าพเจ้าได้พักผ่อนภายใต้การปกปักษ์รักษาของพระหฤทัย

ในบ้านพระหฤทัย ที่มีพระรูปพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า กางเขนสีขาว

และพระรูปของพระแม่มารีย์ตั้งตระหง่านสวยงามโดดเด่นอยู่หน้าบ้าน

เมื่อมองจากห้องพักบนเตียงนอนของข้าพเจ้า

ก็ยังสามารถมองเห็นพระรูปของพระแม่มารีย์ยืนรับแสงไฟ

ขาวสะอาดสวยงามคุ้มครองข้าพเจ้าตลอดคืน

“พี่น้อง ท่านคงรู้แล้วถึงพระหรรษทาน

ซึ่งพระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้าประกอบพันธกิจ

เพื่อประโยชน์ของท่าน”

(เอเฟซัส 3:2)

ภารกิจ  แห่งรัก  แม้หนักหน่วง

แต่เหนือทุกข์  ทั้งปวง  พระล่วงรู้

สิ่งใดเหมาะ  สิ่งใดควร  พระอุ้มชู

ทรงเลี้ยงดู  อยู่เคียงข้าง ห่างทุกข์ภัย

หลังจากที่ภารกิจแห่งรักที่หนักหน่วงผ่านไปแล้ว

ข้าพเจ้าก็ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้จะมีกังวลเรื่องสุขภาพกาย

ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นักก็ตาม

แต่ตลอดการเดินทาง ข้าพเจ้ารับรู้ได้ถึงการเยียวยาของพระเจ้า

ที่เมตตาแก่ข้าพเจ้าผู้อ่อนแอ

ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนครูคำสอน

ข้าพเจ้าได้ไปเยี่ยมเยียนธรรมชาติของพระเจ้า

ข้าพเจ้าได้กลับคืนสู่ธรรมชาติของพระองค์ เพื่อให้ธรรมชาติเยียวยาสิ่งที่สึกหรอไป

ทั้งฝ่ายกายและฝ่ายใจ

ข้าพเจ้าได้มีเวลานั่งหน้าน้ำตก มองดูน้ำตกที่ไหลจากเบื้องบนลงสู่เบื้องล่าง

ไหลมาแล้วก็ผ่านไป มีแต่ความชื่นฉ่ำสดใสให้มนุษย์ได้สัมผัส

ข้าพเจ้านั่งมองน้ำตก แล้วหยิบกระดาษ ปากกาออกมาจดบันทึกความรู้สึกในใจ

ธารน้ำไหล  ฟังสิ  เสียงน้ำไหล

ฟังเย็นใจ  ชื่นจิต   ชีวิตฉัน

มองธารน้ำ  ฉ่ำชื่น  ดวงชีวัน

เหมือนล่องลอย  ในฝัน  อันอำไพ

ธรรมชาติ  งดงาม  ยามสัมผัส

ปลดชีวิต  ที่เร่งรัด  กลับสดใส

มองผืนน้ำ  ฉ่ำชีวิต  ชื่นจิตใจ

มองผืนป่า  ช่างยิ่งใหญ่  ใครสร้างกัน?

ขอบพระคุณพระเจ้าที่สร้างสายตาแห่งรักไว้ในดวงตาข้าพเจ้า

ขอบพระคุณพระเจ้าที่สร้างจิตสำนึกแห่งรักไว้ในใจข้าพเจ้า

ให้ข้าพเจ้ารู้จักที่จะมองทุกกิจการในชีวิตให้เป็นพระพร

และไว้วางใจในแผนการของพระองค์เสมอ

ยอมรับความผิดหวังและการเปลี่ยนแปลงด้วยใจสุภาพนบนอบ

เฉกเช่นที่พระองค์ทรงแสดงไว้เป็นแบบอย่าง

.....................................