ไม่มีเวลาสำหรับการเศร้าเสียใจ
ไม่มีเวลาหม่นไหม้ในชีวิตนี้
ไม่มีเวลาให้น้ำตาไหลปรี่
เพราะทุกวันที่มีเป็นของพระองค์
แม้เศร้าเสียใจก็ยกถวายพระ
หนทางขรุขระคิดถึงพระประสงค์
น้ำตารินไหลแต่พระองค์ยังคง
ประทับดำรงมั่นคงในใจเรา
เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯที่คริสตชนต่างเตรียมจิตเตรียมใจเพื่อต้อนรับพระผู้ไถ่
เพื่อทบทวนชีวิตของตนเองที่ผ่านมาตลอดปี
มีสิ่งดีใดบ้างหรือสิ่งผิดพลาดพลั้งใดบ้างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เตรียมตัวเตรียมใจให้สุกใสสวยงามเพื่อต้อนรับองค์แห่งความรักเข้ามาประทับในใจเรา
ช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ละช่วงของชีวิต
บางทีข้าพเจ้าก็จมปลักอยู่กับความทุกข์ผิดหวังยาวนาน
เสียเวลาไปกับความมืดมนหม่นหมองของจิตวิญญาณ
จนบางทีข้าพเจ้าก็ลืมไปเสียแล้วว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใสของตนเองนั้น
หายไปไหนและหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เทศกาลคริสตมาสถูกจัดให้เป็นเทศกาลแห่งความสุข
สำหรับเด็กๆ และครอบครัว ที่จะได้ร่วมมิสซา สังสรรค์และทำกิจกรรมร่วมกัน
รวมไปถึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะนำพระพรแห่งความรักไปแบ่งปันให้ผู้อื่นด้วย
แต่สำคัญไปกว่านั้น หากใจของเรายังไม่มีพระพรแห่งความรักเลย
หากดวงใจของเรายังเหี่ยวเฉาไร้ความสวยงาม และพลังชีวิต
เราจะเอาพระพรใดไปแบ่งปันผู้อื่นได้เล่า
เมื่อแรกเริ่มเข้ามาทำงาน ใบหน้าของข้าพเจ้าฉาบด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ในทุกๆวัน คนรอบข้างก็จะยิ้มและหัวเราะไปกับข้าพเจ้า
โลกสวยงามและสดใส
มาบัดนี้ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใสนั้นหายไปไหน
ข้าพเจ้าโทษความเลวร้ายของสังคมที่ทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนไป
ข้าพเจ้าโทษผู้คนรอบข้างที่ทำร้ายข้าพเจ้าเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าขาดความสดใสในชีวิต
ข้าพเจ้าโทษเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามาชีวิตว่าดึงเอาความสุขของข้าพเจ้าไป
แต่ข้าพเจ้าไม่เคยโทษตัวเองเลยว่าไม่มั่นคงพอที่จะรักษาสิ่งดีเหล่านั้นไว้ให้ได้
“จงกลับใจเถิด อาณาจักรสวรรค์อยู่ใกล้แล้ว”
(มัทธิว 3:1)
พระวาจาเตือนใจข้าพเจ้าเสมอให้ขวนขวายสะสมทรัพย์สมบัติแห่งสวรรค์
นั่นคือคุณงามความดี ความไม่ยึดติดกับทรัพย์สมบัติฝ่ายข้างโลก
ไม่หลงอยู่ในความสุขสมบูรณ์จนไม่สามารถยอมรับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้
แต่อย่างไรก็ดี เมื่อกล่าวถึงความทุกข์ ความผิดหวัง
มันล้วนเป็นความหม่นหมองทั้งสิ้น
พระเจ้าไม่ได้ต้องการให้ชีวิตของเราหม่นหมอง
แต่พระองค์ต้องการให้เรายอมรับในความทุกข์ยากของชีวิตและยิ้มสู้อย่างมีความสุข
เพราะไม่ว่าความสุขหรือความทุกข์ มันก็ต่างสลับกับเกิดขึ้นในชีวิตของเราทั้งสิ้น
และไม่ว่าร่างกายจะสุขหรือทุกข์ สิ่งสำคัญกว่าคือวิญญาณมีสุขสมบูรณ์
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ไม่ตรงใจไม่ตรงความปรารถนาของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าทำไมมันจึงต้องเกิดเหตุการณ์ที่ขัดต่อความรู้สึกข้าพเจ้าเสมอ
มันทำให้ข้าพเจ้าเครียด หม่นหมอง เศร้าใจ ไร้ความสุข
ยามนอนก็ผวาตื่นขึ้นมาครุ่นคิดวนเวียนวุ่นวายในสมองหาบทสรุปให้ตัวเองไม่ได้
คำว่า “สุดแต่น้ำพระทัยพระองค์” ก็ดังก้องขึ้นมา
แม้ว่าบางทีมันออกจะดังแบบประชดประชันในความรู้สึกไปบ้างก็ตาม
แต่มันก็เป็นประโยคที่ปลอบใจข้าพเจ้าได้ดีอีกประโยคหนึ่ง
ในวันที่ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าจะผ่านพ้นมันไปได้หรือไม่ อย่างไร
“ขอให้พระเจ้าผู้ประทานความพากเพียรและการปลอบใจ
โปรดให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตามแบบฉบับของพระคริสตเยซู”
(โรม 15:5)
ข้าพเจ้าย้อนระลึกไปถึงวันที่ต้องเข้ารับการผ่านตัดไส้ติ่ง
ในค่ำคืนที่ทรมานหลังจากการผ่าตัดไส้ติ่งเกิดจากการระคายคอด้วยฤทธิ์ยาสลบ
เมื่อระคายคอก็เกิดอาหารไอ เมื่อไอก็ระบมบาดแผลผ่าตัด
ที่ดูเหมือนพร้อมจะปริออกได้ตลอดเวลา
ซ้ำร้ายหมอยังไม่ให้รับน้ำหรืออาหารใดๆเลย
ค่ำคืนแรกของการผ่าตัดเป็นค่ำคืนที่ทรมาน และหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมด
ข้าพเจ้ามองนาฬิกา มองเข็มนาที เข็มวินาที ที่ค่อยๆขยับไปเรื่อยๆ
บอกกับตัวเองว่า ประเดี่ยวก็พรุ่งนี้แล้ว
ประเดี๋ยวก็ครบวัน ครบสองวันและมันก็จะดีขึ้นเอง
เวลาไม่เคยหวนกลับ ความเจ็บปวดที่ผ่านเข้ามาประเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
เราเคยผ่านความเจ็บปวดอื่นๆมาได้อย่างไร
มาวันนี้หรือวันหน้าเราก็จะสามารถผ่านมันไปได้ไม่ต่างกัน
เมื่อทุกข์ก็ยอมรับที่จะทุกข์ เมื่อสุขก็จดจำไว้ให้เป็นแรงพลังในวันทุกข์ทน
สิ่งสำคัญในวันทุกข์ทนคือการมีครอบครัวเป็นพระพร
เพราะเมื่อเราบาดเจ็บจากที่ใดมา ครอบครัวคือที่ที่เราจะกลับมาเยียวยารักษาใจเรา
จนเราเข้มแข็ง มีพลัง และพร้อมจะลุกขึ้นก้าวออกไปเดินได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าที่มอบครอบครัวที่น่ารักให้ข้าพเจ้า
มอบคนที่รักข้าพเจ้ามาเคียงข้างข้าพเจ้า คนที่คอยส่งเสริมยินดีเมื่อข้าพเจ้าไปได้ดี
คนที่คอยกอดเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกเหว่ว้าผิดหวัง คนที่คอยเติมใจในวันที่ข้าพเจ้าขาดพลัง
เหมือนดังว่าพระองค์ทรงประทับอยู่กับข้าพเจ้าผ่านทางครอบครัวข้าพเจ้าเสมอมา
ขอให้คริสตมาสที่จะเดินทางมาถึงนี้
เป็นเทศกาลพิเศษสำหรับเราคริสตชนทุกคนรวมทั้งตัวข้าพเจ้าเองด้วย
ที่จะได้ไตร่ตรองชีวิตตนเอง ด้วยความยินดีกับประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามา
และเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิมอยู่เสมอๆ
หากพระองค์ทรงพอพระทัย
ลูกจะไม่ร่ำร้องสิ่งใดให้วุ่นวาย
ทั้งชีวิตจิตใจและร่างกาย
ลูกขอมอบถวายแด่พระองค์ผู้เดียว
..................................... |