“จงระวังและรักษาตัวให้พ้นจากความโลภทุกชนิด

เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา

แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม”

(ลูกา 12:15)

ข้าพเจ้าเปิดเฟสบุ๊คขึ้นมาทีไร

ก็รู้สึกสะท้อนใจสงสารตัวเองขึ้นมาเสียทุกที

โดยเฉพาะในวันหยุดยาวที่ใครต่อใครก็พากันออกท่องเที่ยว

ใช้จ่ายกินอยู่อย่างมีความสุขกายสบายใจ

ในขณะที่ข้าพเจ้าถูกกำหนดให้ใช้จ่ายอย่างประหยัดด้วยภาระมากมายในครอบครัว

ข้าพเจ้าพร่ำบ่น ยิ่งพร่ำบ่นก็ยิ่งทดท้อหัวใจ

จะทำอย่างไรให้ตัวเองมีใช้จ่ายอย่างสบายกายสบายใจเหมือนคนอื่นได้บ้าง

ข้าพเจ้าใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวในการช่วยพ่อแม่ทำงานสวน งานบ้าน

และเลี้ยงหลาน

ข้าพเจ้าแอบพร่ำบ่นถึงวิถีชีวิตที่น่าเบื่อของตนเองในแต่ละวัน

ยิ่งบ่นก็ยิ่งเบื่อ พาลทำให้สภาพแวดล้อมและคนในครอบครัวมัวหมองไปด้วย

ข้าพเจ้าจึงย้อนกลับมาพิจารณาตนเองใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ในขณะที่พ่อและแม่ของข้าพเจ้าต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน

ทำงานสวน งานบ้าน เลี้ยงหลานเช่นกันแบบนี้ทุกๆวัน

ท่านไม่เบื่อหน่ายบ้างหรือ ทำไมท่านไม่เคยพร่ำบ่นเหมือนข้าพเจ้าเล่า

ข้าพเจ้าจึงพยายามหาความสุขจากสิ่งที่ทำ

เมื่อมองหาก็จะพบ พบความสุขท่ามกลางความรัก และธรรมชาติ

ข้างบ้านข้าพเจ้าเป็นสุสานหรือบ้านของเหล่าทูตสวรรค์

ถูกกั้นเขตแดนด้วยบ่อน้ำที่ข้าพเจ้าสามารถลงไปแหวกว่ายได้อย่างสนุกสนาน

หลังบ้านมีพืชผักสวนครัวมากมายให้เดินชื่นชม

ในบ้านมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ไม่เคยขาดแคลน

เมื่อมองหาความสุข ความสุขก็จะปรากฏขึ้นมา

พอใจในสิ่งที่มี  ยินดีในสิ่งที่ได้

จึงยังคงเป็นข้อเตือนใจสำหรับข้าพเจ้าได้เสมอ และใช้ได้ในทุกสถานการณ์

ถ้าใจนบนอบพอที่จะยินดีในสิ่งที่มี และสิ่งที่ได้รับ

“คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป

แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า

คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเอง

แต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้าก็จะเป็นเช่นนี้”

(ลูกา 12:20-21)

เศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งมีภรรยาหลายคน

เขามีทรัพย์สมบัติมากพอที่จะปรนเปรอบรรดาภรรยาของเขา

และภรรยาของเขาทุกคนต่างก็พึงพอใจในทรัพย์สมบัติเหล่านั้น

พวกเขาใช้ชีวิตบนความสุขสบายของทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้

จนบางทีพวกเขาลืมคิดถึงศีลธรรม คุณธรรมที่ถูกต้อง

รวมถึงคุณค่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนไปเสียสิ้น

หากชีวิตของเรา เมื่อมีเสียงเรียกเตือนใจเราในยามที่เรากำลังหลงทาง

มีเหตุการณ์ทำให้เราสะกิดใจ และกลับมาในเส้นทางพระพรได้นั้น

ก็ถือว่าเป็นพระคุณมากล้นที่พระเมตตาประทานให้

หากเราไม่หลงใหลใฝ่เพ้อ ไม่ปิดหูปิดตา และรู้จักรับฟังเสียงเตือนบ้าง

เราก็จะได้กลับมาเดินในเส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง

ถ้าเรากล่าวถึงภรรยาน้อยๆของบรรดาชายที่มีสถานะเป็นเศรษฐี

เราก็จะไม่รู้สึกแปลกใจเลย

เพราะสถานการณ์เหล่านี้สร้างความเคยชินให้กับสังคมโลกไปเสียแล้ว

ว่าหากชายใดมีทรัพย์สมบัติก็จะมีหญิงมาให้เชยชมไม่ขาดสาย

หรือแม้แต่รายการต่างๆหลายรายการ ก็ต่างแสวงหาการนำเสนอความอลังการ

ของบรรดาบ้านเศรษฐี กิจกรรมร้องเล่นเต้นรำ

ข้าวของเครื่องใช้แบรนเนมของคนมีฐานะมากมาย

เมื่อเยาวชนรับมาก็เก็บไว้เป็นฐานข้อมูลว่าสักวันหนึ่งฉันจะเป็นเช่นนั้นให้จงได้

กลายเป็นการแข่งขันกันเพื่อความร่ำรวยทางทรัพย์สมบัติ

มิใช่แข่งขันกันเพื่อสร้างคุณงามความดีเสียแล้ว

แต่อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็ยังพอแลเห็นรายการโทรทัศน์ที่มีคุณค่าอยู่อีกมาก

อาทิเช่น รายการ  super 10 , super 60+ หรือ super 100

และอีกหลายรายการ ที่ส่งเสริมด้านศักยภาพของมนุษย์ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้นฐานะ

ยกระดับคุณค่า และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนที่ดูจะต่ำต้อย

ในสายตาผู้อื่นให้สูงขึ้นในสายตาของสังคมโลก

ซึ่งทำให้สังคมและโลกนี้คงน่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าทุกวันนี้

“คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเอง”

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข้าพเจ้าได้ฟังแต่ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของบรรดาญาติ และเพื่อนๆ

ซึ่งบางคนมีครอบครัวแล้ว และยังมีภาระอีกมากมาย

ข้าพเจ้าจึงฉุกคิดขึ้นมาว่า ถ้าผู้ที่เสียชีวิตมีทรัพย์สมบัติที่แอบฝากไว้ในบัญชีธนาคาร

โดยไม่ได้บอกกล่าวบุคคลอื่นๆไว้เลย แล้วเสียชีวิตจากไป

ทรัพย์สมบัติเหล่านั้นจะตกทอดไปเป็นของใคร

จริงแท้แน่นอนที่พระวาจาสอนใจข้าพเจ้าว่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเอง

เมื่อวันหนึ่งถูกเรียกจากโลกนี้ไปแล้ว

ทรัพย์สมบัติที่เจ้าของพยายามเหนื่อยยากสะสมไว้นั้น

ก็จะตกทอดไปเป็นของคนอื่นไปเสีย

ช่วงระยะเวลาที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้

ถ้าเราเพียรสะสมเพียงทรัพย์สินของโลก

เราก็จะลืมสะสมทรัพย์สมบัติฝ่ายจิตนั่นคือคุณความดีที่จะนำพาเราไปสู่สวรรค์

“คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป

แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า

คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเอง

แต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้าก็จะเป็นเช่นนี้”

(ลูกา 12:20-21)

จงแสวงหาน้ำพระทัยพระเป็นเจ้า

และความเที่ยงตรงของพระองค์

แล้วทุกๆสิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน

อัลเลลู อัลเลลูยา

.....................................