“มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก

สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว

มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”

(ลูกา 10:41-42)

การเป็นเครื่องมือทำงานรับใช้พระเจ้านั้นสำคัญ

แต่สัมพันธภาพระหว่างเรากับพระเจ้านั้นสำคัญยิ่งกว่า

ข้าพเจ้าทำงานในหน่วยงานการศึกษา

ตำแหน่งงานของข้าพเจ้าคืองานประกาศข่าวดี

ดังนั้นในทุกๆปีการศึกษา ข้าพเจ้าจะต้องวางแผน เขียนโครงการ

เพื่อนำเสนอกิจกรรมในการประกาศข่าวดีของหน่วยงานการศึกษาของตน

น่าแปลก ในขณะที่ข้าพเจ้าทำหน้าที่หลักคืองานประกาศข่าวดี

นั่นคือ ข้าพเจ้าพยายามนำข่าวดีไปสู่ผู้อื่น ไปสู่คนรอบข้าง

แต่ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่าข่าวดีนั้นไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร

ในตัวข้าพเจ้า ในจิตวิญญาณข้าพเจ้าผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศนี้เลย

ดังนั้น พระวาจาตอนนี้จึงทำให้ข้าพเจ้าต้องย้อนกลับมาไตร่ตรองตนเองอีกครั้ง

ข้าพเจ้ากำลังสาละวนกับกิจการของโลกมากเกินไปหรือเปล่า

ข้าพเจ้ากำลังดิ้นรน ต่อสู้ แข่งขันกับความเจริญก้าวหน้าในชีวิตเกินไปใช่หรือไม่

กิจการของโลกอาจจะสำคัญมากสำหรับการดำเนินชีวิตบนโลก

เพราะชีวิตบนโลกเรายังมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย

แต่เพราะเราพยายามดิ้นรนผลักดันตนเองให้ดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างสุขสบาย

จึงมักลืมชีวิตฝ่ายจิตที่ต้องการอาหารบำรุงให้เจริญเติบโตด้วยเช่นกัน

พนักงานบริษัทธรรมดาคนหนึ่งเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีต่อเพื่อนร่วมงานดีมาก

เขามีวิสัยทัศน์ในการทำงานกว้างไกล

และมีความพยายามในการสร้างผลงานของตนอยู่เสมอ

เขาทุ่มเวลา  ทุ่มแรงกายแรงใจจนวันหนึ่งเขาได้รับตำแหน่งที่ดีขึ้น

ซึ่งมันมาพร้อมกับอำนาจและหน้าที่อีกมากมายที่เขาต้องรับผิดชอบ

อำนาจหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นมานี่แหละ ที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

จากคนที่เคยมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน

กลับกลายเป็นสายตาที่ดูถูกดูแคลนเพื่อนร่วมงานที่ยังคงตำแหน่งเดิม

คำพูด หรือแม้แต่คำสรรพนามแทนตนเองต่อเพื่อนร่วมงานก็เปลี่ยนไป

วัยวุฒิ คุณวุฒิของเพื่อนร่วมงานที่ตำแหน่งต่ำกว่า

ไม่มีผลต่อความสุภาพถ่อมตนของเขาอีกต่อไป

เขาลืมสัมพันธภาพที่ดีที่เคยมีในวันที่เขายังไม่ได้เงยหน้าอ้าปากเหมือนทุกวันนี้

เหตุการณ์เหล่านี้สอนใจข้าพเจ้า และเตือนใจข้าพเจ้าเสมอ

ว่าเมื่อข้าพเจ้ายังคงมีสัมพันธภาพที่ดีกับพระเป็นเจ้าในทุกช่วงเวลาของชีวิต

ไม่ว่าในช่วงเวลานั้นข้าพเจ้ากำลังเจริญก้าวหน้าด้วยอำนาจ หน้าที่ หรือเงินทองก็ตาม

ข้าพเจ้าจะต้องไม่หลงระเริงอยู่ในวังวนของโลกใบนี้จนลืม

ความสัมพันธ์ที่ดีต่อพระเจ้า ผ่านการภาวนา การใช้เวลากับพระเจ้าในทุกๆรูปแบบ

และสำคัญยิ่งคือการใช้พระพรพิเศษของตนเพื่อรับใช้ผู้อื่นด้วยความสุภาพนบนอบ

ไม่ใช่ว่าข้าพเจ้าจะทำได้ดีในสิ่งสำคัญเหล่านี้

แต่พระวาจาจะคอยตะล่อมข้าพเจ้าให้อย่าลืมที่จะกระทำสิ่งนี้ต่างหาก

การไตร่ตรองข้อคำสอนของพระเจ้าเพื่อดึงจิตใจของข้าพเจ้า

ไม่ให้เตลิดไปตามกระแสโลกที่พร้อมจะดึงเราออกไปประหนึ่งพายุหมุน

ที่พัดพาเราให้ล่องลอยไปกับกระแสของมัน

จนกลับลงมายังรากฐานที่แท้จริงของตนเองไม่ได้อีกต่อไป

รากฐานของการเป็นลูกพระ ความสัมพันธ์ในครอบครัวของพระศาสนจักร

ความเป็นหนึ่งเดียวกันในความรักกันฉันพี่น้อง

ต่อให้เราบินสูงจนเสียดฟ้า  เราก็จะไม่กล้ามองลงมาเหยียดหยามใคร

ตราบเท่าที่เรายังมีสัมพันธภาพที่ดีกับพระเจ้า

เราก็จะมีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

สิ่งสำคัญคือสัมพันธภาพต่อพระเจ้าท่ามกลางโลกที่แสนจะวุ่นวาย

“นั่นคือการที่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในท่าน

ทรงเป็นความหวังเพื่อให้ท่านได้รับความรุ่งเรือง”

(โคโลสี 1:27)

ข้าพเจ้าจึงเรียนรู้ว่า ผู้ที่มีสัมพันธภาพที่ดีต่อพระเจ้า

เขาจะไม่ตกเป็นทาสของโลกนี้เลย

แม้เขาจะบินอยู่สูงเสียดฟ้า แต่หัวใจเขาจะโหยหาแต่พระหรรษทานที่แท้จริง

และเขาจะใช้สัมพันธภาพที่ดีต่อพระเจ้านี้

เพื่อนำพระพร และแสงสว่างไปสู่ชีวิตรอบข้างด้วยเช่นกัน

.....................................