“อย่าชื่นชมยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อท่าน

แต่จงชื่นชมยินดีมากกว่าที่ชื่อของท่านจารึกไว้ในสวรรค์แล้ว”

(ลูกา 10:20)

มีสุภาษิตไทยประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า

“อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง”

ไม่มีทรัพย์สมบัติใดในโลกที่สร้างความสุขแท้จริง

ไม่มีอำนาจใดในโลกที่จีรังยั่งยืน

และก็ไม่มีสัจจะใดในหมู่โจรแน่นอน

ศิษย์ทั้งเจ็ดสิบสองคนของพระเยซูเจ้ารู้สึกยินดีที่ปีศาจอ่อนน้อมต่อพวกเขา

แต่เป็นไปด้วยอำนาจของพระเจ้า

พระเยซูเจ้าทรงเตือนใจพวกเขาไม่ให้หลงอยู่ในความมีอำนาจนั้น

เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่อำนาจที่เรามี

แต่เป็นความรอดของวิญญาณเราต่างหากที่สำคัญกว่า

นักบุญเทเรซาองค์น้อยบอกกับบิดาของเธอว่า

“พ่อขา ชื่อของหนูถูกจารึกไว้ในสวรรค์แล้วค่ะ”

แล้วเธอก็ชี้ไปที่ดวงดาวที่เรียงรายกันเป็นรูปตัว T

ทำอย่างไรให้ชื่อเราถูกจารึกไว้ในสวรรค์

ข้าพเจ้าเขียนนิทานสอนใจสั้นๆเรื่องหนึ่งเพื่อนำมาแบ่งปัน

นักบุญเปโตรยืนตั้งด่านคอยเชครายชื่อของดวงวิญญาณที่ลอยขึ้นมาบนสวรรค์ทีละดวง

ดวงวิญญาณใดมีรายชื่อในบัญชีก็จะได้รัศมีรอบศีรษะและผ่านเข้าประตูสวรรค์ได้

แต่หากดวงวิญญาณใดไม่มีรายชื่อในบัญชีสวรรค์

ดวงวิญญาณนั้นก็จะตกลงสู่เบื้องล่าง นั่นคือนรกอเวจีที่ร้อนไปด้วยเปลวเพลิง

ดวงวิญญาณของชายคนหนึ่งลอยขึ้นมาหยุดอยู่หน้าประตูสวรรค์

นักบุญเปโตรเริ่มตรวจเชครายชื่อ ปรากฏว่าไม่มีรายชื่อของชายคนนี้เลย

ดวงวิญญาณของชายนิรนามผู้นี้เริ่มตื่นตระหนกตกใจ

เขาเริ่มบรรยายถึงคุณงามความดีที่เขากระทำครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่บนโลก

เขาทำบุญให้กับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามากมายในแต่ละปี

เขาสร้างโบสถ์วิหารใหญ่โตตามเมืองใหญ่ๆ

และมีชื่อของเขาจารึกไว้ที่ผนังโบสถ์วิหารนั้น

นักบุญเปโตรถามเขาว่า เด็กกำพร้าเหล่านั้นต้องการสิ่งใดมากที่สุดในชีวิตของพวกเขา

ดวงวิญญาณชายนิรนามตอบว่า เด็กๆน่าจะต้องการอาหารอร่อยๆ ของเล่นสนุกๆ

นักบุญเปโตรกล่าวว่า เปล่าเลย เด็กๆต้องการแค่ความรักเท่านั้น

และนักบุญเปโตรถามต่อไปว่า เจ้าสร้างโบสถ์วิหารมากมาย

เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรคือสิ่งที่สวยงามที่สุดในโบสถ์วิหารเหล่านั้น

ดวงวิญญาณชายนิรนามกล่าวว่า ความสวยงามของโบสถ์วิหารคือ

การออกแบบสถาปัตยกรรมให้ยิ่งใหญ่อลังการนั้นเอง

นักบุญเปโตรตอบว่า สิ่งสำคัญและสวยงามที่สุดของโบสถ์วิหารคือ

เสียงอธิษฐานภาวนาของประชากรของพระเจ้าผู้มาชุมนุมกัน

มีความเชื่อ ความไว้ใจ และความรักเดียวกันต่างหากเล่า

เช่นเดียวกัน บางทีเราก็หลงคิดไปว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นคือคุณงามความดี

และเราก็ยืดอกพกความรู้สึกว่าตนเองเป็นคนดีให้คนรอบข้างชื่นชม

เราได้รับรางวัลบนแผ่นดินโลกที่ไม่จีรังยั่งยืนเรียบร้อยแล้ว

“ข้าพเจ้าไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากเรื่องไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์

องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา  อาศัยไม้กางเขนนี้

โลกถูกตรึงตายไปจากข้าพเจ้า”

(กาลาเทีย 6:14)

มีความเป็นไปได้สูงมากที่มนุษย์จะหลงระเริงอยู่กับเกียรติยศชื่อเสียง อำนาจวาสนา

เมื่อโอกาสมาถึง และเรากำลังได้สิทธินั้นมาครอบครอง

และบุคคลที่เดินอยู่ในทางธรรมก็มีโอกาสที่จะหลงทางได้เช่นกัน

ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องตระหนักแก่ใจตนเองเสมอ

ที่จะพยายามไตร่ตรอง และสำนึกตนเองว่าเป็นคนบาป

และทำสิ่งใดไม่ได้เลยหากปราศจากพระเจ้า

เพื่อข้าพเจ้าจะได้ไม่หลงระเริงไปกับคำชื่นชมใดๆ เมื่อได้รับคำชื่นชม

เพื่อจะได้ไม่หลงทางไปไกลเมื่อต้องยืนอยู่บนเส้นทางมายาของโลกนี้

ขอให้บัญชีสวรรค์               มีชื่อฉันจารึกไว้

กิจการดีใดใด                 ให้ดวงใจสุภาพพอ

นบนอบยอมรับใช้     ทำสิ่งใดให้รั้งรอ

อำนาจความสอพลอ               ล้วนเกิดก่อทางอบาย

จะหมั่นสร้างจิตธรรม   ให้สุขล้ำดั่งใจหมาย

ปลดปลงเรื่องฝ่ายกาย  จุดมุ่งหมายทางฝ่ายใจ

.....................................