“ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา”

(ยอห์น 14:23)

.................................................

มีบทเพลงหนึ่งชื่อเพลง “อยู่เพื่อรับใช้”

ท่อนหนึ่งของบทเพลงร้องขับขานไว้ว่า

“หากเรารักใครสักคน ก็พร้อมจะทำทุกอย่าง

ให้เขารู้ว่ารักมากเท่าใด

แต่วันนี้ที่เราพูดไป ว่ารักพระเจ้ามากมาย

เราได้ทำอะไรเพื่อพระองค์หรือยัง.....”

เพราะว่าถ้าเรารักใครสักคนหนึ่ง

เราก็อยากที่จะรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้นทุกๆวัน ทุกๆวินาที

อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของเขา อยากจะทำให้ในทุกอย่างที่เขาต้องการ

เช่นเดียวกัน ในขณะที่เรากำลังบอกว่าเราเป็นลูกของพระ

เรารักพระเจ้า เราเชื่อฟังคำสอนของพระองค์ (จริงหรือ?)

ในขณะที่ปากของเรากำลังสอนเรื่องความรักต่อเพื่อนมนุษย์

แต่เราก็กำลังทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยรัก ทั้งทางตรงและทางอ้อม

เรารักพระเจ้าจริงหรือ?

ในขณะที่พระเจ้าทรงสอนให้เราใช้ถ้อยคำเพื่อเสริมสร้างกำลังใจแก่กันและกัน

แต่เรากลับใช้ถ้อยคำเพื่อทำร้ายคู่อริของตนอย่างรุนแรงในทุกช่องทาง

เรารักพระเจ้าจริงหรือ?

ในขณะที่เรากำลังสอนใครคนหนึ่งให้รู้จักการให้อภัย

แต่เรากำลังอาฆาตแค้นใครอีกคนหนึ่ง เรารักพระเจ้าจริงหรือ?

ในขณะที่เรากำลังเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า

ในขณะที่เรากำลังเป็นเครื่องมืออันมีคุณค่าของพระองค์

เรากำลังใช้ปากของเราทำร้ายใครอยู่หรือไม่

เรากำลังใช้กิจการของเราลดทอนศักดิ์ศรีของใครอยู่หรือเปล่า

เพราะถ้าในขณะที่เราบอกว่าเราเป็นลูกของพระ

แต่เรากำลังสู้รบปรบมือกับศัตรูเพื่อให้ตนเองนั้นชนะให้จงได้

เราเป็นลูกพระจริงหรือ?

ข้าพเจ้ารู้สึกบั่นทอนจิตใจที่ต้องพบเพื่อนพี่น้องในพระบิดาองค์เดียวกัน

แต่กลับกำลังทำร้ายกันและกันเมื่อมีโอกาส

หรือรอที่จะหัวเราะเยาะกันเมื่อใครคนใดคนหนึ่งล้มลง

เราจะเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้าในรูปแบบใดกัน

เพื่อให้เพื่อนพี่น้องต่างความเชื่อได้สัมผัสว่า เรารักกันและกันอย่างแท้จริง

ไม่ใช่เพียงปากพูดว่ารักกันเมื่อภาวนา หรือในขณะร่วมบูชาขอบพระคุณ

แต่ในกิจการเรากลับทำร้ายกันอย่างไม่มีเยื่อใยของพี่น้องร่วมพระบิดาเดียวกันเลย

ข้าพเจ้าเอาก็มีบุคคลที่ข้าพเจ้าไม่ใคร่อยากจะเสวนาด้วยอยู่เช่นกัน

แต่เมื่อข้าพเจ้ามาไตร่ตรองดูกิจการดีของเขา มันก็ไม่น้อยมิใช่หรือ

หรือถ้าย้อนกลับมาดูตัวเอง เราก็ไม่ใช่จะดีไปกว่าเขาเท่าไหร่นัก

ตราบใดที่เราเองก็ยังมีข้อบกพร่องในการดำเนินชีวิต

เรายังต้องการได้รับการอภัยจากพระเจ้า

แต่ตราบใดที่เรายังประทับตราความผิดของเพื่อนมนุษย์เอาไว้

ข้อบกพร่องของเราก็จะถูกประทับตราไว้ไม่ลืมเลือนเช่นกัน

เมื่อใดที่ใจเราปล่อยวาง อภัยให้เป็น รักให้มาก

แล้วเราก็จะพบสันติสุขที่แท้จริงของชีวิต

“เรามอบสันติสุขไว้ให้ท่านทั้งหลาย เราให้สันติสุขของเราแก่ท่าน

เราให้สันติสุขแก่ท่านไม่เหมือนที่โลกให้”

(ยอห์น 14:27)

จงรักกัน  ด้วยกิจ  การกระทำ

พระวาจา  โน้มนำ  คำสอนให้

แม้ศัตรู  จะอยู่  แห่งหนใด

ก็มิอาจ รุกรานใจ ที่รักจริง

.....................................