“กิ่งก้านใดในเราที่ไม่เกิดผลพระองค์จะทรงตัดทิ้ง

กิ่งก้านใดที่เกิดผล พระองค์จะทรงลิด

เพื่อให้เกิดผลมากมาย”

(ยอห์น 15:1-1)

ข้อคิดประจำวันในไบเบิ้ลไดอารี่ ของพระวาจาประโยคนี้

อธิบายไว้ว่า เราจะเติบโตด้วยปุ๋ยแห่งพระวาจา

ที่หว่านลงในดินแห่งจิตวิญญาณที่ดี

เมื่อเกิดดอกออกผล  เราต้องลิดกิ่งที่ไม่ดีออก ได้แก่ ความชั่วร้ายทั้งหลาย

ที่จะคอยแย่งน้ำเลี้ยงไปจากเรา ทำให้เราอ่อนแอ เจริญเติบโตฝ่ายจิตช้าลง

 และสุดท้ายคือการดำรงอยู่ในพระเจ้าและให้พระองค์ดำรงอยู่ในเรา

คำอธิบายนี้ช่างชัดเจนและเห็นภาพได้ดียิ่งนัก

เมื่อข้าพเจ้าคิดถึงต้นฝรั่งข้างบ้าน

ข้าพเจ้าคอยห่อลูกฝรั่งเพื่อกันแมลงไว้ตั้งแต่ลูกยังน้อย

ข้าพเจ้าสังเกตว่าลูกฝรั่งที่ออกมาจะออกเป็นลูกคู่มาเสมอ

และถ้าสังเกตดีๆ จะมีลูกหนึ่งเล็กกว่าอีกลูกหนึ่ง

แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าลูกไหนดูสมบูรณ์กว่าเพื่อน

ข้าพเจ้าเคยลองห่อลูกฝรั่งทั้งคู่ไว้ด้วยกัน

และเมื่อมันแก่พอที่จะรับประทานได้ ข้าพเจ้าพบว่า

ความสมบูรณ์และความหวานของมันก็เหมือนจะถูกเฉลี่ยไปอย่างละครึ่งเช่นกัน

ดังนั้นข้าพเจ้าจึงมักจะลิดลูกที่ไม่สมบูรณ์ออก เหลือไว้ 1 ลูกต่อพวง

ลูกที่ถูกเลือกจะเติบโตไวมากและขาวสวยหอมหวานน่ารับประทานยิ่งนัก

เป็นผลผลิตที่มีคุณค่า และคุณประโยชน์

ฉันใดก็ฉันนั้น ก็คงเหมือนชีวิตฝ่ายจิตของข้าพเจ้าเอง

ที่พระเจ้าทรงดูแลหว่านเมล็ดพันธ์แห่งพระวาจาลงในจิตวิญญาณ

แต่หากข้าพเจ้าไม่รับเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจานั้นเข้ามาหล่อเลี้ยง

หรือข้าพเจ้ามีสภาพของจิตวิญญาณที่ไม่พร้อมรับพระวาจา

พระวาจานั้นก็ไม่สามารถเจริญงอกงามได้เลย

ไม่สามารถสร้างคุณประโยชน์ต่อใครได้อีกด้วย

แต่หากข้าพเจ้ามีสภาพของจิตวิญญาณที่เปิดรับเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา

จนสามารถเจริญเติบโตออกดอกออกผลให้คุณประโยชน์ต่อผู้อื่นได้

นั่นคือ สามารถนำผลแห่งพระวาจาแสดงออกเป็นกิจการที่ดีงาม

ให้เพื่อนพี่น้องรอบข้างได้เห็นถึงกิจการดีงามนั้นแล้วเห็นองค์พระคริสตเจ้าด้วย

นั่นคงเป็นเป้าหมายที่สวยงามของชีวิตจริงๆ

“ลูกที่รักทั้งหลาย เราอย่ารักกันแต่ปาก

เพียงด้วยคำพูดเท่านั้น

แต่เราจงรักกันด้วยการกระทำ

และด้วยความจริงจากการกระทำนี้”

(1 ยอห์น 3:18)

กิจการแห่งความรักกลายเป็นโลโก้ของเราคริสตชน

เพียงแต่เราแสดงออกถึงกิจการแห่งรักต่อผู้อื่นชัดเจนแค่ไหนเท่านั้นเอง

ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตอยู่ท่ามกลางเพื่อนพี่น้องต่างความเชื่อ

แม้บางครั้งจะรู้สึกหวั่นไหว หวาดกลัวว่าจะถูกแบ่งแยก หรือถูกกดดันบ้าง

แต่ข้าพเจ้าก็พยายามค่อยๆแสดงตนให้ทุกคนได้รู้ว่าข้าพเจ้าเป็นศิษย์พระคริสต์

อย่างเป็นขั้นตอนเพื่อการได้รับการยอมรับที่ดีขึ้น

โดยอาศัยการแสดงออกซึ่งความรัก ความสุภาพนบนอบ และการรับใช้อย่างเต็มที่

แล้วจึงแสดงตนอย่างชัดเจนว่าข้าพเจ้านี่แหละศิษย์พระคริสต์อย่างเต็มภาคภูมิ

แต่หากข้าพเจ้ายังไม่ชัดเจนในกิจการที่ดีงามนั้น

กลับไปชัดเจนในกิจการที่เลวร้าย

ข้าพเจ้าเองก็ไม่สมควรที่เปิดเผยตนว่าเป็นศิษย์พระคริสต์เลย

“แต่ข้าพเจ้าจะมีชีวิตเพื่อพระองค์

บุตรหลานของข้าพเจ้าจะรับใช้พระองค์

จะประกาศถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าแก่คนรุ่นหลังสืบไป”

(สดุดี 22:29-30)

กิ่งก้านใด เกิดผล ดลบันดาล

ให้พบพาน ความสมบูรณ์ พูนเพิ่มผล

พระเจ้าทรง  ลิดกิ่งก้าน  บันดาลดล

ให้ได้ยล  ผลแห่งพร  ที่ย้อนคืน

.....................................