“สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด”
(ยอห์น 20:19,21,26)
ในพระวรสารนักบุญยอห์น บทที่20 ตั้งแต่ข้อ 19-31
ข้าพเจ้าพบว่าทุกครั้งที่พระเยซูเจ้าเสด็จมาพบบรรดาสาวกของพระองค์
คำทักทายแรกของพระองค์คือ “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด”
ซึ่งมีประโยคทักทายนี้ทั้งหมด 3 ครั้งในบทที่ 20 ข้อที่ 19-31
และมีกล่าวถึงอีกหลายครั้งในพระวรสาร
ซึ่งข้าพเจ้าเองก็เคยได้ยินเพื่อนพี่น้องชาวมุสลิมทักทายกันด้วยประโยคนี้บ่อยครั้ง
แน่นอน สังคมทุกสังคม ศาสนาทุกศาสนาล้วนต้องการสร้างสันติสุขต่อกัน
สำหรับข้าพเจ้า สันติสุขที่แท้จริงคือการได้เรียนรู้ ได้สัมผัส ได้มีประสบการณ์ฝ่ายจิต
กับองค์พระคริสตเจ้าผู้ทรงชีวิต
เมื่อเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาที่พระองค์ทรงหว่านลงในใจข้าพเจ้า
เจริญงอกงามขึ้น ข้าพเจ้าก็พบและสัมผัสได้ถึงสันติสุขที่แท้จริง
การยอมรับ ความเข้าใจ การเยียวยารักษาและแสงสว่างของคุณธรรมความดีงาม
ก็เติบโตในใจข้าพเจ้า และพร้อมจะออกดอกออกผลให้คนรอบข้างได้ลิ้มรส
แต่เมื่อใดที่ข้าพเจ้ารับเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจามาแล้ว
ข้าพเจ้าปล่อยทิ้งให้เมล็ดพันธุ์นั้นแห้งเหี่ยวตายไปในดวงใจที่แห้งแล้ง
ความดีงาม พระพรในชีวิตของข้าพเจ้าก็ไม่เกิดดอกออกผล
มันเหี่ยวแห้งและไร้คุณค่าต่อคนรอบข้าง แม้แต่ตัวเองก็ตาม
ดังนั้นแล้ว สิ่งที่ข้าพเจ้าเพียรจะรักษาไว้ในมั่นคือ
การสร้างสันติสุขแก่เพื่อนพี่น้องรอบข้าง
ให้เหมือนที่พระคริสตเจ้าทรงดำเนินไปที่ใดก็นำสันติสุขไปที่นั่นด้วย
และเมื่อพระคริสเตจ้าสถิตอยู่ที่ใดที่นั่นก็จะเป็นที่แห่งสันติสุข
เมื่อพระคริสตเจ้าสถิตในใจผู้ใด ใจของผู้นั้นก็จะเปี่ยมด้วยสันติสุข
แต่หลายครั้งข้าพเจ้าก็แอบสงสัยว่า ในใจมีพระคริสตเจ้าในใจแล้ว
ทำไมข้าพเจ้ายังต้องพบความทุกข์ยากลำบากมากมายในชีวิตเล่า
ความทุกข์ยากเหล่านี้คือสันติสุขในใจได้อย่างไร
ในเมื่อกายทุกข์ ใจก็ต้องทุกข์ตามด้วยมิใช่หรือ
แต่พระคริสตเจ้าทรงตรัสตอบข้าพเจ้าผ่านพระวาจาบทหนึ่งว่า
“เราบอกเรื่องเหล่านี้กับท่านแล้ว
เพื่อท่านจะได้มีสันติสุขในเรา
ในโลกนี้ ท่านจะมีความทุกข์ยาก แต่อย่าท้อแท้ เราชนะโลกแล้ว”
(ยอห์น16:33)
ความเชื่อจะทำให้เรามั่นคงในพระคริสตเจ้า
แม้ในวันที่ต้องพบกับความทุกข์ยากลำบากในชีวิต
เมื่อเรามีความเชื่อที่มั่นคง เราก็จะไม่ท้อแท้ต่อความทุกข์ยาก
เราจะเห็นแสงสว่างของหนทางชีวิต เราจะพบประตูทางออกของปัญหาและความทุกข์
เราจะเห็นคุณค่าของความทุกข์ยากและเปลี่ยนความทุกข์ยากนั้นให้เป็นพลัง
เราจะชนะควมทุกข์ยากทั้งปวงด้วยความเชื่อที่มั่นคงเด็ดเดี่ยว
เพราะเรารู้ว่าพระคริสตเจ้าทรงชนะบาปและความตายแล้ว
และเมื่อพระคริสเจ้าผู้ชนะบาปและความตายสถิตอยู่กับเรา
ความทุกข์ยากใดใดบนโลกใบนี้ก็ไร้ค่า ไม่มีความหมายที่เราจะยอมแพ้ต่อมันอีกต่อไป
“ศิลาซึ่งช่างก่อสร้างทิ้งไป กลายเป็นศิลาหัวมุม
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำการนี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ตาของเรา
นี่คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง
เราจงยินดีและมีความสุขเถิด”
(สดุดี 118:22-24)
ขอให้ท่านจงพบสันติสุขเถิด
ขอให้พรบังเกิดในใจท่านทั้งหลาย
ขอให้ความเชื่อ ความหวังไม่เสื่อมคลาย
ขอความรักมากมายจงเพิ่มพูน
ขอให้ทุกคนบนโลกจงรักกัน
ขอให้ความไหวหวั่นจงเสื่อมสูญ
ขอให้ผลแห่งพระวาจาทวีคูณ
งอกงามเพิ่มพูนใจทุกดวง
..................................... |