ความรัก...คำสากลที่ไม่เคยเก่า และไม่เคยตกยุค

ความรัก...ความรู้สึกที่ใครๆก็ต้องการได้รับและได้ให้

ความรัก...ที่มีคนนิยามความหมายไว้มากมายตามสถานะของความรู้สึก

ความรัก...เป็นบัญญัติเอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาสนาคริสต์

ความรัก...เบ่งบานที่ใดที่นั่นก็เต็มไปด้วยความสุขและสันติ

แม้ว่าหลายครั้ง บางคนอาจจะนิยามความรักไว้ในทางลบ

แต่ความหมายในทางลบไม่น่าจะใช่ความรักแท้แน่นอน

มันน่าจะเรียกว่าความหลง  ความต้องการเป็นเจ้าของ  ความคาดหวังที่จะได้กลับคืน

และอื่นๆที่มีความหมายว่าต้องการครอบครองเป็นของตนผู้เดียว

ในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ได้ให้นิยามคำว่าความรักตามบริบททางปรัชญาไว้ว่า

“ความรักเป็นคุณธรรมแสดงออกซึ่งความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ

และความเสน่หาทั้งหมดของมนุษย์

ความรักเป็นแก่นของหลายศาสนา อย่างเช่นในวลี "พระเจ้าเป็นความรัก" ของศาสนาคริสต์

หรืออากาเป(ความรักแบบพระเจ้า)

ความรักยังอาจอธิบายได้ว่าเป็นพฤติกรรมต่อตนเองหรือผู้อื่น

ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเห็นอกเห็นใจ หรือความเสน่หา”

อันที่จริงข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยชอบคำว่า เสน่หาสักเท่าไหร่

อาจจะเป็นเพราะ มันแลดูเป็นความใคร่ ความลำเอียง ความไม่ยุติธรรมรวมอยู่ด้วย

ข้าพเจ้าก็ว่าน่าจะตัดออกจากความหมายในบริบทของปรัชญาไปเสียก็ดี

โดยเฉพาะในบริบทของข้อคำสอนทางศาสนาคริสต์ที่มีความรักเป็นบัญญัติเอก

“ถ้าไม่มีความรักข้าพเจ้าเป็นแต่เพียงฉาบหรือฉิ่งที่ส่งเสียงอึกทึก”

(1 โครินธ์ 13:1 )

นักบุญเปาโล ได้กล่าวถึงความหมายของความรักไว้ใน

บทจดหมายถึงชาวโครินธ์ฉบับที่ 1 บทที่ 12-13 ไว้อย่างชัดเจน

ว่าความรักนั้นสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด แม้เราจะมีความเชื่อจนล้นพ้นแต่หากเราขาดความรัก

เราก็ไม่ได้มีความสำคัญหรือมีประโยชน์ประการใดเลย

ต่อให้เราเข้าวัด ฟังธรรม ศึกษาพระคัมภีร์ ปฏิบัติศาสนกิจอย่างสม่ำเสมอ

แต่ถ้าเราขาดความรัก เราก็ไม่ได้มีคุณค่าใดเลย

เพราะความรักเป็นการแสดงออกถึงกิจการที่ดีงามต่อพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์

เพราะความรักมีความสำคัญต่อมนุษย์ชาติ

ที่นับวันเริ่มให้ความหมายของความรักเป็นไปตามใจตนเองปรารถนามากกว่าใจผู้อื่นปรารถนา

ละครไทยเรื่องหนึ่ง ประกอบด้วยนางเอก พระเอก และนางร้าย  ตัวร้าย

ชายตัวร้ายหมายปองนางเอก สิ่งที่เขาทำคือหาโอกาสลวนลามเธอ

และบอกเธอว่าที่เขาทำเพราะเขารักเธอ

ในขณะที่พระเอก เพียรคอยดูแล ปกป้องเธอด้วยตัวเขาเอง

แต่น่าแปลกใจที่ในความเป็นจริงเรานำเสนอบทพระเอกในคาบตัวร้ายกันเสียมาก

พยายามบอกว่าเรามีความรักแท้ให้คนรอบข้าง

แต่เราก็ตั้งความไว้ที่จะได้รางวัลบางอย่างตอบแทนเช่นกัน

เราวางแผนการบางอย่างให้กับความรักเพื่อที่เราจะได้สมหวังด้วย

“ความรักย่อมอดทน  มีใจเอื้อเฟื้อ  ไม่อิจฉา

ไม่โอ้อวดตนเอง  ไม่จองหอง  ไม่หยาบคาย  ไม่เห็นแก่ตัว

ความรักไม่ฉุนเฉียว  ไม่จดจำความผิดที่ได้รับมา  ไม่ยินดีในความชั่ว

แต่ร่วมยินดีในความถูกต้อง  ความรักให้อภัยทุกอย่าง  เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง  อดทนทุกอย่าง

ความรักไม่มีสิ้นสุด....”

(1 โครินธ์ 13:4-8)

กิจการของพระเยซูเจ้าเป็นกิจการของความรักแท้

ที่ประกอบไปด้วยความหมายของความรักที่ครบถ้วนสมบูรณ์ในทุกข้อ

พระองค์อดทนต่อประชากรที่ดื้อรั้น  พระองค์ให้อภัยคนชั่วคนบาป

พระองค์ยืนยันในความถูกต้องและต่อสู้กับความคิดชั่วร้ายที่กลายเป็นสังคมนิยม

ข้าพเจ้าจะเลียนแบบพระองค์ได้มากที่สุดเพียงใด

หากใจข้าพเจ้ายังอ่อนแอและหวาดกลัวที่จะยืนยันในการกระทำที่ถูกต้องอยู่เช่นนี้

แบบอย่างของพระเยซูเจ้าคอยตอกย้ำให้ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอว่า

หากข้าพเจ้ามีความเชื่อในพระองค์อยู่เสมอ

และหากข้าพเจ้ามีความหวังหล่อเลี้ยงชีวิตวิญญาณไม่จืดจาง

และสำคัญยิ่ง หากข้าพเจ้ามีความรักแท้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต

ข้าพเจ้าก็จะยังคงอยู่ในเส้นทางของพระเจ้า

แม้จะเดินโซซัดโซเซบ้างในบางครั้ง แต่ข้าพเจ้าก็จะไม่หลงเดินออกนอกเส้นทางไปไกลนัก

***เพราะความรักนั้นยิ่งใหญ่

มีหัวใจเป็นตัวกำหนด

การกระทำคือแม่บท

นี่คือกฎ...บทบัญญํติเอกคริสตชน***

.....................................

S