“พี่น้องที่รักทั้งหลาย จงฟังเถิด

พระเจ้าทรงเลือกผู้ที่โลกตัดสินว่ายากจน

เพื่อให้เขามั่งมีในความเชื่อ

และเป็นทายาทรับมรดกพระอาณาจักร

ซึ่งทรงสัญญาไว้สำหรับผู้ที่รักพระองค์มิใช่หรือ”

(ยากอบ 2:5)

ครั้งหนึ่ง ซิสเตอร์ท่านหนึ่งต้องการหากระแสเรียก

เพื่อให้หญิงสาววัยรุ่นได้เข้ามาทดลองสัมผัสชีวิตตามจิตตารมณ์ของคณะซิสเตอร์

ข้าพเจ้าถามซิสเตอร์ว่าต้องการเข้ามาหากระแสเรียกในกรุงเทพหรือไม่

เพราะสังเกตว่าซิสเตอร์จะออกจัดกิจกรรมหากระแสเรียก

กับบรรดาเยาวชนหญิงสาวที่อยู่ตามชนบทและชาวเขาเสียเป็นส่วนใหญ่

ซิสเตอร์อธิบายว่า บรรดาเยาวชนวัยรุ่นในเมือง

มักจะใช้เวลาไปกับความสุขสนุกสบายที่มีคนรอบข้างปรนเปรอให้

พวกเขามีความคิดที่ซับซ้อนและจิตใจที่อึกทึกครึกโครมไม่สงบนิ่ง

เป็นการยากที่พวกเขาจะยอมสละความสุขเหล่านั้น

ต่างจากบรรดาหญิงสาวในชนบทหรือบนดอยห่างไกล

พวกเขายังมีความคิดที่ไม่ซับซ้อนนัก  ความซื่อบริสุทธิ์ของพวกเขา

คือพระพรของพระเจ้าที่ทำงานได้เต็มที่ในตัวของพวกเขา

เขายังมีจิตใจที่สงบสุข มีสันติ  มีที่ว่างที่จะให้พระเจ้าเข้ามาชิดใกล้

เขาจึงได้ยินเสียงของพระเจ้า ท่ามกลางความยากจน ท่ามกลางธรรมชาติ

ท่ามกลางความว่างเปล่าที่สวยงามในชีวิต

ข้าพเจ้าเห็นจริงตามคำอธิบายเหล่านั้น

พระเจ้าทรงเลือกผู้ที่โลกเห็นว่ายากจน

เพราะพวกเขามีใจบริสุทธิ์  นบนอบ สุภาพ และมีที่ว่างสำหรับต้อนรับพระองค์

พวกเขามีหูไว้สำหรับฟังเสียงเรียกของพระเจ้ามากกว่าเสียงเรียกของมนุษย์

พวกเขามีดวงตาที่ส่องประกายสดใสมากกว่าดวงตาที่แข็งกร้าวของสังคมเมือง

ข้าพเจ้าก็ได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนั้น

ทั้งในสังคมเมืองและสังคมชนบท

และมีความหวังเหลือเกินที่จะให้บรรดาเยาวชนหญิงสาวในเมือง

ได้มีโอกาสพบกับสันติสุขเช่นนั้นบ้าง

ไม่ต้องคิดซับซ้อน ไม่ต้องวางแผนเพื่อคอยแข่งขันดิ้นรน แก่งแย่งกัน

มีช่วงเวลาที่ปล่อยว่างให้พระเจ้าเข้ามาเติมเต็มจิตใจที่อ่อนล้า

มีช่วงเวลาที่มีดวงตาของความสดใสเป็นประกายสวยงาม

มีหูที่พร้อมจะเปิดรับฟังเสียงของพระเจ้าอย่างชัดเจน

“องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานสายตาแก่คนตาบอด

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพยุงผู้ที่ล้มให้ลุกขึ้น

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักผู้ชอบธรรม

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิทักษ์คนต่างถิ่นที่มาอาศัยอยู่”

(สดุดี 146:8-9)

ทำไมองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงประทับอยู่ท่ามกลางผู้ทุกข์ยาก

ทำไมองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงฟังเสียงของผู้ยากไร้

เพราะพวกเขาอ่อนโยน พวกเขานบนอบ สุภาพ

และมีหูที่พร้อมจะรับฟังคำสอนของพระองค์ด้วยใจที่เปิดกว้าง ยอมรับ

ขอให้ข้าพเจ้ามีใจที่นบนอบ สุภาพพอที่จะฟังเสียงของพระองค์

มีดวงใจที่เปล่าว่างพอที่จะให้พระองค์เข้ามาประทับอยู่ภายในใจ

มีดวงตาที่สดใสพอที่จะมองเห็นพระองค์ท่ามกลางความวุ่นวายฝ่ายโลก

เพราะพระองค์ ทรงสดับ ฟังคำข้าฯ

ผู้อ่อนล้า  ต่ำค่า  น่าสงสาร

เพราะพระองค์  ทรงเมตตา  เอื้ออภิบาล

ข้าฯจึงผ่าน  ความลำบาก  ไม่ยากเลย

..............................

S