“แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์นั่นแหละ

ทำให้เขามีมลทิน”

(มาระโก 7:20)

ครั้งหนึ่ง มีเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องเลือก

เลือกที่จะเดินในทางที่ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ

กับเลือกที่จะเดินในทางที่ถูกใจแต่ไม่ถูกต้อง

คำตอบที่เข้าข้างตนเองจะเกิดขึ้นภายใน

เพื่อสนองความต้องการของความเป็นมนุษย์ของตนเอง

การกล่าวอ้างเพื่อให้สิ่งที่ผิดกลับกลายเป็นสิ่งที่ถูก

จึงเกิดขึ้นเพื่อสนองความต้องการ  ความถูกใจของตัวเองด้วยเช่นกัน

แต่ในความเป็นจริง ใจข้าพเจ้าเองสำนึกอยู่เสมอว่าสิ่งที่กระทำนั้นผิด

สิ่งที่เลวร้ายมักมาจากภายใน และแสดงออกมาเป็นการกระทำภายนอก

พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า

“ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ทำให้เขามีมลทินได้”

แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในใจของมนุษย์นั่นแหละทำให้เขามีมลทิน

สิ่งที่ออกมาจากภายในหากไม่ผ่านคุณธรรมแห่งความรัก

ตามแบบอย่างของพระเยซูเจ้า

และถูกแสดงออกมาสู่ภายนอก

ย่อมเป็นกิจการที่ไร้ค่า สร้างรอยมลทินให้กับชีวิตตนเองและผู้อื่น

หากมือของเราเปื้อนโคลนตมใครก็คงไม่อยากจับต้อง

แต่โคลนตมก็เป็นเพียงสิ่งสกปรกภายนอกที่ชำระล้างก็สะอาด

ไม่อาจลบล้างค่าความดีภายในได้

ต่อในคนดีสกปรกอย่างไรก็ยังเป็นคนดีเสมอ

แต่หากใจของเราแปดเปื้อนด้วยโคลนตมแห่งความชั่วร้าย

ล้างอย่างไรก็ไม่สะอาดได้เลย

โคลนตมที่แปดเปื้อนใจของเรา จะสะอาดได้ด้วยพระวาจาของพระเจ้าเท่านั้นจริงๆ

พระวาจาเป็นดังน้ำใสชำระล้างใจเราให้สะอาดบริสุทธิ์

พระวาจาเป็นดังตะเกียงที่ส่องแสงชี้นำทางเราให้เดินไปโดยไม่หลงทาง

พระวาจาเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ของมนุษย์กับพระเจ้า

แต่หลายครั้งที่เราเชิดชูพระเจ้าเพียงแค่ปากผ่านถ้อยคำภาวนา

หากแต่กิจการของเรานั้น ไม่ได้แสดงออกมาซึ่งความรักตามแบบอย่างของพระเจ้าเลย

พ่อบอกข้าพเจ้าว่าให้สวดให้พระศาสนจักรเยอะๆ

เพราะพระศาสนจักรกำลังถูกประจญหลายทาง

พระศาสนจักรกำลังต่อสู้อยู่บนโลกใบนี้จริงๆ

ข้าพเจ้าเองบางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองด้วยใช่ไหม

ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พระศาสนจักรหม่นหมอง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุการณ์ใดก็ตามที่ข้าพเจ้าหลงทำผิดพลาด

สร้างรอยหม่นหมองให้พระศาสนจักร

ข้าพเจ้าจะพยายามแก้ไขตัวเอง

จะพยายามดึงตัวเองกลับมาฟื้นฟูพระศาสนจักรให้สวยงามขึ้น

แม้ข้าพเจ้าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆในพระศาสนจักรก็ตาม

ข้าพเจ้าจะพยายามเจริญชีวิตในพระวาจา

จะปฏิบัติตนให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกของพระ

จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนรอบข้างเท่าที่สามารถทำได้ดีที่สุด

จะพยายามเป็นความรัก เป็นรอยยิ้ม เป็นพลังบวกให้กับทุกคน

และในทุกๆครั้งทดท้อกับสิ่งที่พยายามกระทำลงไป

ข้าพเจ้าจะคิดถึงพระวาจาตอนหนึ่งที่ว่า

โลกนี้ ร่างกายนี้ก็เป็นเพียงกระโจมชั่วคราวเท่านั้น

แต่ความดีที่ถูกกล่าวขานให้เป็นแบบอย่างต่อไปนี้สิ

จะเป็นเหมือนกระบอกเสียงแทนถ้อยคำสอนหลายร้อยล้านคำ

ที่จะนำให้ชนรุ่นหลังรู้จักพระเจ้ามากขึ้น

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ใดจะอาศัยในกระโจมของพระองค์ได้

ผู้ใดจะพำนักในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

ผู้นั้นคือผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไม่มีที่ติ

ปฏิบัติความชอบธรรม

พูดความจริงจากใจของตน

ผู้ที่บังคับลิ้นของตนไว้ไม่ใส่ความ

ไม่ทำร้ายผู้อื่น  ไม่ใส่ร้ายเพื่อนบ้าน”

(เพลงสดุดี 15:1-3)

{เพราะมีกรอบ  แห่งความดี  บริบูรณ์

พร้อมพระคุณ  การุณย์  หนุนนำให้

เจริญชีวิต     เยี่ยงองค์     พระทรงชัย

มีพระวาจา    นำทางไป   ไม่เสื่อมคลาย{

..............................

S