“วอนขอท่านทั้งหลาย
ให้ดำเนินชีวิตสมกับการที่ท่านได้รับเรียก”
(เอเฟซัส 4:1)
เราได้รับการเรียกให้กระทำภารกิจของคริสตชน
ด้วยหน้าที่ที่แตกต่างกัน
แต่ความแตกต่างนั้น กลับทำให้เราใช้พระพรของพระเจ้า
เข้าถึงกลุ่มคนได้หลากหลายยิ่งขึ้น
เราได้ดำเนินชีวิตตามพระพรนั้นอย่างเต็มที่หรือไม่
สมกับการได้รับเรียกหรือไม่
สำหรับข้าพเจ้าแล้วนั้นการดำเนินชีวิตให้สมแก่การได้รับเรียก
คือการดำเนินชีวิตตามแบบอย่างและข้อคำสอนของพระคริสตเจ้า
ให้คนรอบข้างได้สัมผัสถึงพระเยซูคริสตเจ้าเมื่อเห็นกิจการดีของเรา
ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าเองอาจจะไม่ใช่คนดีเต็มร้อย
แต่ทุกกิจการ ข้าพเจ้ามีความพยายามที่จะกระทำแต่สิ่งที่ดีดี
แม้จะหลงทางไปบ้าง ก็จะพยายามดึงตัวเองกลับมาให้จงได้ในที่สุด
ข้าพเจ้าเคยร่วมงานกับบุคคลในลักษณะต่างๆกัน
เคยสัมผัสบุคคลที่มองทุกเหตุการณ์เป็นบวก
ความคิดและคำพูดทุกคำของเขาสร้างสรรค์กำลังใจ และชูใจผู้ชิดใกล้
และเคยสัมผัสบุคคลที่มองเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นลบ
ความคิดและคำพูดของเขาช่างลิดรอนพลังชีวิต และสร้างความมืดมิดให้จิตวิญญาณ
ข้าพเจ้ากลับมาไตร่ตรองตนเองว่า แล้วเราหละจะเป็นบุคคลประเภทใด
ในฐานะที่ได้รับเรียกจากพระคริสตเจ้า
เมื่อพระองค์ทรงเลี้ยงดูเราทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิตวิญญาณ
สิ่งดีดีที่เราได้รับจากพระคริสตเจ้า
ข้อคำสอนที่เราได้สัมผัสจากพระคริสตเจ้า
เรามีอะไรแบ่งปันให้กับคนรอบข้างบ้างหรือไม่
เราเป็นภาพลบ หรือภาพบวกในใจของผู้อื่น
“พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์
ประทานอาหารให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลได้กินจนอิ่ม
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเที่ยงธรรมในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์
ทรงความรักมั่นคงในพระราชกิจทั้งหลาย”
(สดุดี 145:17)
ข้าพเจ้าคิดถึงคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา
ผู้ที่ข้าพเจ้ารู้สึกและสัมผัสได้ว่า ท่านดำเนินชีวิตสมกับการได้รับเรียกเต็มร้อยจริงๆ
แม้ในช่วงชีวิตของท่านจะได้รับรางวัลฝ่ายโลกมากมาย
แต่ท่านก็ยังคงยืนหยัดอยู่บนความนบนอบ ยากจน เสียสละ
ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผู้ทุกข์ยาก ผู้ถูกสังคมรังเกียจ
ท่ามกลางอุปสรรคมากมายที่ท่านต้องฝ่าฟันเพื่อผู้อื่น
ท่านเป็นแบบอย่าง และเป็นเสียงเตือนใจสำหรับคริสตชนยุคใหม่
ที่กำลังหลงทาง ชื่นชมอยู่กับความสนุกสบายในการดำเนินชีวิตบนโลกนี้
โดยไม่ได้เอาใจใส่ รับฟังเสียงของเพื่อนพี่น้องร่วมโลกที่กำลังทุกข์ยากมากมาย
อาจจะด้วยเหตุผลที่ว่า คนทุกข์ยากมีมากมาย เราหรือจะเข้าไปช่วยเหลือได้
คำสอนของคุณแม่เทเรซาย้ำเตือนใจเราว่า
“เราสามารถให้ในสิ่งเล็กน้อยด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ได้” จริงๆ
มองทุกชีวิตด้วยหัวใจแห่งรัก
สัมผัสให้ประจักษ์ว่ารักนั้นยิ่งใหญ่
มองผู้ทุกข์ยากให้เห็นพระคริสต์อยู่ภายใน
แล้วเอื้อมมือออกไปโอบกอดเขาขึ้นมา
จงให้แม้เพียงสิ่งเล็กน้อยที่เรามี
ให้ด้วยใจปรานีแค่นี้ก็แสนจะมีค่า
เพราะสิ่งที่ให้มาจากใจที่ยิ่งใหญ่เมตตา
ซึ่งมีพระคริสต์นำพาเราจึงเห็นคุณค่าของผู้คน
…………………………. |