“ดังนั้น ในวันนี้ จงรู้และจำใส่ใจว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้า
ทั้งในสวรรค์เบื้องบน และบนแผ่นดินเบื้องล่าง
และไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก”
(เฉลยธรรมบัญญัติ 4 : 39)
อำนาจหรือการอัศจรรย์ทั้งสิ้นเป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ในวันที่เราไม่สามารถกำหนดชีวิตของตนเองได้เลย
เสียงเพลงๆหนึ่งก็ดังแว่วมา
“...หากไร้พระองค์ ลูกคงไม่อาจทำสิ่งใด
ฝากชีวิตไว้ มอบให้พระองค์แลดู...”
ในขณะที่ใครบางคนมาขอคำภาวนาจากเราเพื่อความราบรื่นในชีวิต
เพื่อความบรรเทาใจในความทุกข์ยากทั้งหลาย
สิ่งหนึ่งที่เราควรจะมีคือ ความรักที่เหมือนความรักของพระเยซูเจ้า
นั่นคือ ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขใดใดเลย ความรักที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนจากผู้รับ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้เข้าอบรมวิชาความรู้คู่คุณธรรม
ซึ่งประกอบไปด้วยกิจกรรมมากมาย
เน้นการไตร่ตรองจากเหตุการณ์ตัวอย่างที่ท่านอาจารย์จัดหามาให้
รวมไปถึงข้อคำสอน และคุณธรรมตามหลักศาสนา
คอร์สอบรม 16 ชั่งโมง และปิดท้ายด้วยการประเมินผลด้วยการทำแบบทดสอบอัตนัย
คำถามข้อหนึ่งถามถึงคุณธรรมที่จะทำมนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขสันติ
แม้ว่าคำตอบที่อาจารย์ต้องการจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่ข้าพเจ้ายืนยันว่า คุณธรรมนั้นมาจากคำสอนทางศาสนาเป็นแน่แท้
และข้าพเจ้าก็เป็นคริสตชนคนหนึ่ง ที่มีคำสอนของพระคริสตเจ้า
แทรกซึมในชีวิตมาตั้งแต่เกิดจนโต
คุณธรรมหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ของคริสตชนก็คือ คุณธรรมความรัก
ข้าพเจ้าบรรยายถึงคุณธรรมความรักที่ควรจะเป็น และควรจะมีในสังคมมนุษย์
คือความรักแบบพระเยซูเจ้า
ความรักที่บางคนให้ความหมายว่าเป็นความรักแบบ AGAPE
ความรักที่ไม่หวังผลตอบแทน ไม่มีเงื่อนไขใดใด เสียสละ และยอมทุกอย่าง
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอความรักมั่นคงของพระองค์
สถิตกับข้าพเจ้าทั้งหลาย
เพราะข้าพเจ้าทั้งหลายมีความหวังในพระองค์”
(สดุดี 33:22)
พระวาจา องค์พระเจ้า นั้นเที่ยงตรง
ทั้งพระองค์ ทรงชอบธรรม สุดล้ำค่า
ความรักของ องค์พระเจ้า ล้นดินฟ้า
ผู้เข้ามา พึ่งพา ต่างสุขใจ
…………………………. |