พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า

“ท่านเชื่อเพราะได้เห็นเรา

ผู้ที่เชื่อแม้ไม่ได้เห็นก็เป็นสุข”

(ยอห์น 20:29)

เมื่อข้าพเจ้าได้หลุดเข้าไปสังเกตการณ์ในวงสนทนาว่าด้วยเรื่องความเชื่อ

ข้าพเจ้าอ่านข้อโต้แย้งของผู้ไม่เชื่อและข้อโต้เถียงของผู้เชื่อ

อ่านอย่างนึกฉงนในใจกับคำโต้คารมไปมาของสองฝ่าย

เมื่อผู้ไม่เชื่อยืนหยัดที่จะไม่เชื่อ อย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ

จนกว่าชีวิตของเขาจะพบกับวันแห่งความจริง

ข้าพเจ้าคิดว่าการโต้เถียงกันระหว่างผู้เชื่อกับผู้ไม่เชื่อนั้น

ไม่ได้ทำให้เกิดผลดีใดใดเลยของทั้งสองฝ่าย

ความเชื่อของคริสตชนเป็นความเชื่อที่มีข้อคำสอนของพระเจ้าเป็นหลักประกัน

ไม่ใช่ความเชื่อที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ

คริสตชนผู้เชื่อจะยืนหยัดในความเชื่อของตนจนวาระสุดท้าย

ข้าพเจ้ามั่นใจว่า คนของพระเจ้าไม่เคยถูกทอดทิ้ง

แม้ในวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต

ความเชื่อแม้มองไม่เห็น แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี

ความเชื่อที่แท้จริงย่อมก่อให้เกิดการพัฒนาจิตวิญญาณไปในทางที่ดีขึ้น

และความเชื่อทำให้ผู้เชื่อได้รับรู้ว่าสิ่งที่เชื่อนั่นมีพื้นฐานมาจากความรัก

คริสตชนคนหนึ่งเปรียบเทียบความเชื่อกับเหตุการณ์หนึ่งว่า

หากเรานำน้ำตาของคุณแม่ของเราที่ร้องไห้เพราะเรามาตรวจพิสูจน์ดู

เราจะพบว่าในน้ำตานั้นประกอบไปด้วย

หนึ่ง คือฝุ่น  สอง คือน้ำ และสาม คือ เกลือ

นั่นคือสิ่งที่เราจะตรวจพบด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์

แต่เรารู้ใช่ไหมว่าในน้ำตาของคุณแม่ของเรานั้น

มันมีมากกว่าสารสามชนิดที่ปนออกมา

นั่นคือ มันมีความรู้สึกเสียใจหรือรู้สึกดีใจจากการกระทำของเรา

ความรู้สึกเสียใจหรือความรู้สึกดีใจนั้นเราไม่สามารถมองเห็นได้

แต่ด้วยความเชื่อในความรักที่คุณแม่มีต่อเรา

เราจึงรู้ว่าน้ำตาที่ไหลเอ่อจากสองตาคุณแม่นั้น มันมีความหมายอย่างไร

ความเชื่อของคริสตชนก็เช่นกัน

มีคำสอนและความรักของพระเจ้าเป็นหลักประกันว่า

ความเชื่อของเรามีคุณค่าต่อจิตวิญญาณของเราแน่นอน

เมื่อคริสตชนมีความเชื่อเป็นชีวิต

มันจะถูกถ่ายทอดออกมาให้คนรอบข้างได้เห็น ได้สัมผัส

และซึมซับเอาความรักของพระเจ้าในตัวเราเข้าไปด้วย

ไม่จำเป็นที่เราจะต้องออกมาสู้รบปรบมือถกเถียงเพื่อให้คนบางคนต้องเชื่อเหมือนเรา

แต่เราต้องมีชีวิตเป็นพยานถึงพระเจ้าให้ชัดเจน

มั่นคงในความเชื่อต่อพระเจ้าของตนเอง ไม่ลังเล หย่อนยานต่อการปฏิบัติศาสนกิจ

เอาชนะความเลวร้ายในชีวิตประจำวันด้วยความรัก และความอดทน

ผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าก็จะรักพระเจ้า

และผู้ที่รักพระเจ้าก็จะปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์

“ความรักต่อพระเจ้า คือการปฏิบัติตามบทบัญญัติ”

(1ยอห์น 5:3)

แม้ไม่ได้เห็น  ข้าฯก็จะเชื่อ

เพราะข้าฯคือเกลือ   เพื่อดองโลกไว้

ถ้อยคำพระเจ้า  ข้าฯไว้วางใจ

เป็นพยานยิ่งใหญ่  ให้กับพระองค์

………………………….

S