“เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า

ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงในดินและตายไป

มันก็จะเป็นเพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น

แต่ถ้ามันตายมันก็จะบังเกิดผลมากมาย”

(ยอห์น 12:24)

เมื่อเช้าได้ฟังรายการวิทยุที่ว่ากันด้วยเรื่องของงานวิจัยความสุขของมนุษย์

ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์คืออะไร

ในงานวิจัยสรุปผลไว้ว่า มนุษย์ที่มีช่วงอายุระหว่าง 18 – 35 ปี

จะเป็นช่วงที่มีความทุกข์มากที่สุด

นั่นอาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงวัยแห่งการดิ้นรนต่อสู้

เพื่อให้ได้มาซึ่งความมั่นคง และมั่งคั่งในชีวิต

และช่วงวัย 35 ปี ขึ้นไป จะเริ่มลดระดับความทุกข์น้อยลง

นั่นก็เพราะเริ่มเข้าใจชีวิตมากยิ่งขึ้น

ความทุกข์เกิดจากความอยากมีอยากได้เพื่อตัวเอง

ซึ่งตรงกับผลการวิจัยที่พบว่า

คนที่อยากมีอยากได้เพื่อตัวเองจะได้รับความทุกข์มากกว่าคนที่เป็นผู้ให้

คนที่อยู่ในชนบทใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ

มีความทุกข์น้อยกว่าคนในเมือง

ข้าพเจ้าคิดถึงนักบุญหลายๆองค์ที่เสียสละความสุขส่วนตนเพื่อผู้อื่น

ขอยกตัวอย่างถึง ซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตา

ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อดูแลผู้ยากไร้ในดินแดนที่ยากเข็ญ

ความทุกข์ของท่านไม่ใช่สิ่งที่ท่านไม่มีเพื่อตนเอง

แต่ความทุกข์ของท่านคือผู้ทุกข์ยากไม่มีที่พึ่งพิง

แบบอย่างชีวิตของซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตาเป็นแบบอย่างให้ข้าพเจ้าคิดถึง

ในวันที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นผู้ทุกข์ยากมาขอความช่วยเหลือ

แล้วข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่าข้าพเจ้าก็ไม่มีอะไรจะช่วยเขาได้

แทนที่จะพยายามคิดว่าข้าพเจ้าจะช่วยเขาด้วยวิธีใดได้ดีที่สุด

ซิสเตอร์เทเรซาแห่งกัลกัตตา และนักบุญทั้งหลายต่างเป็นเมล็ดข้าวที่มีคุณภาพ

ที่ยอมตายต่อตนเองเพื่อให้เมล็ดข้าวเมล็ดอื่นๆได้เติบโตขึ้นอีกมากมาย

แม้ซิสเตอร์จากโลกนี้ไปแล้ว

แต่เมล็ดข้าวอีกมากมายกำลังงอกขึ้นจากเมล็ดข้าวที่มีคุณภาพของซิสเตอร์

ข้าพเจ้าก็เป็นเมล็ดหนึ่งในจำนวนหลายเมล็ดที่เติบโตขึ้นด้วย

“ข้าแต่พระเจ้า

ขอพระองค์ทรงสร้างใจที่ใสสะอาดไว้ในข้าพเจ้า

โปรดทรงฟื้นฟูดวงจิตของข้าพเจ้าให้มั่นคง”

(สดุดี 51:10)

บทเพลงหนึ่งดังก้องไพเราะเพื่อเตือนใจข้าพเจ้าว่า

“เปลี่ยนดวงใจลูกเถิด

โปรดให้เป็นหัวใจ  ที่มีไฟรักยิ่งใหญ่

เหมือนหัวใจพระองค์”

ข้าพเจ้าได้ร่วมเสวนากับพี่น้องคาทอลิกกลุ่มหนึ่ง

ข้าพเจ้าได้แบ่งปันความรู้สึกหนึ่งของข้าพเจ้า

นั่นคือ ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจที่ตนเองได้เกิดเป็นลูกพระตั้งแต่แรกเริ่ม

คริสตชนทุกคนน่าจะภูมิใจในความเป็นลูกของพระ

เพราะเราถูกถ่ายทอดทางจิตวิญญาณให้มองโลกในแง่บวก

สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตคือพระพร

ความทุกข์ยากลำบากจะนำเราไปสู่สวรรค์บ้านแท้

ปัญหาและอุปสรรคต่างๆเป็นอนิจจัง

สิ่งที่จะคงอยู่กับจิตวิญญาณของเราคือคุณความดี

ที่เราสร้างไว้ต่อเพื่อนพี่น้องบนโลกนี้

และในการวิจัยยังระบุไว้ว่า

ผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในหลักธรรมทางศาสนา

จะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าน้อยมาก

แอบขำตัวเองหน่อยๆ เพราะเคยคิดว่าถ้าแก่ตัวลงจะเป็นไหมนะโรคฮิตนี้

กลัวเหมือนกันเพราะเป็นคนคิดมากคิดมาย คิดหยุมคิดหยิม

แต่ก็มั่นใจว่าทุกสิ่งที่จะเป็นไปกับเราได้

ก็เพราะพระเห็นสมควร เหมาะสมแล้ว

เมล็ดข้าว เมล็ดหนึ่ง ร่วงลงดิน

มลายสิ้น สูญสลาย กลายเป็นผง

แต่กลับเกิด  รวงข้าวใหม่  ใช้ดำรง

เฉกชีวิต  อยู่ยง  คงความดี

เปรียบเจ้าเป็น  เมล็ดพันธุ์  ชั้นนำเลิศ

ควรก่อเกิด  เมล็ดใหม่  ให้ศักดิ์ศรี

ด้วยแบบอย่าง  แห่งพระเจ้า  องค์ความดี

จงทวี  เมล็ดพันธุ์  นั้นออกไป

………………………….

S