พระองค์ตรัสเรียกเขาว่า “อับราฮัมเอ๋ย”
อับราฮัมทูลตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่นี่”
(ปฐมกาล 22:1)
เสียงขานตอบแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของผู้ถูกเรียกต่อเสียงของผู้เรียก
ครั้งหนึ่งข้าพเจ้านั่งอยู่ในมุมมืดมุมหนึ่งของห้องเพื่อเร่งงานบางอย่างให้เสร็จ
ข้าพเจ้าไม่ประสงค์จะพบปะผู้ใดในเวลาอันเร่งรีบนี้
เขามองไม่เห็นข้าพเจ้า เขาพยายามเรียกหา
แต่ข้าพเจ้าไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกนั้น
ข้าพเจ้ารู้สึกได้ว่าข้าพเจ้าขาดความเอาใจใส่ต่อเสียงเรียกนั้นจริงๆ
เขาอาจจะมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องการให้เราช่วยเหลือก็ได้
มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีและข้าพเจ้าไม่ควรกระทำเช่นนั้นเลย
ย้อนกลับไปอีกเหตุการณ์หนึ่ง
ข้าพเจ้าเรียกลูกสาวเพื่อให้มาช่วยเหลือข้าพเจ้าทำงานบ้าน
เธอไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ใคร่จะเต็มใจนัก
ในเวลาที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับกิจกรรมบางอย่างของเธอ
แล้วถูกข้าพเจ้าเขาไปขัดจังหวะพอดี
พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัมให้กระทำในสิ่งที่ยากลำบากที่สุด
พระองค์ทรงให้ถวายอิสอัคบุตรชายคนเดียวที่อับราฮัมรักมาก
เป็นเครื่องถวายบูชาแด่พระเจ้า
อับราฮัมก็ไม่ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้าเลย
ในพันธสัญญาเดิมอับราฮัมถวายอิสอัคบุตรที่แสนรักของเขา
ในพันธสัญญาใหม่พระบิดาเจ้ามอบพระเยซูเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเรามนุษย์
พระเยซูเจ้าทรงถวายพระองค์เองทั้งสิ้นเพื่อชาวเรา
ทรงปรารถนาให้เราเรียนรู้ที่จะรักและยึดพระองค์เป็นแบบอย่างในการรู้จักฟัง
และปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์
รู้จักที่จะฟังเสียงเรียกของพระองค์มากกว่าเสียงเรียกของมารซาตาน
เสียงเรียกของพระองค์อาจจะไม่นำมาซึ่งความสุขในโลกนี้
เสียงเรียกของพระองค์อาจจะไม่ได้นำมาซึ่งอำนาจวาสนา
แต่เสียงเรียกของพระองค์นำมาซึ่งชีวิตนิรันดร
ข้าพเจ้าเฝ้าเตือนตัวเองให้รู้จักที่จะฟังเสียงเรียกของพระองค์
ผ่านเพื่อนพี่น้องที่ทุกข์ยาก และต้องการความช่วยเหลือ
แม้ในวันที่ข้าพเจ้ารู้สึกวุ่นวาย ต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง
“ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด”
(มาระโก 9:7)
และในความทุกข์ยากที่จะช่วยเหลือแม้แต่คนที่ไม่น่ารัก
ในการที่จะต้องสละน้ำใจตนเองเพื่อคนรอบข้าง
จะฝึกให้ข้าพเจ้ามีความเชื่อ ความหวัง และความรักเพิ่มพูนยิ่งขึ้น
“ข้าพเจ้ายังมีความเชื่อ แม้เมื่อข้าพเจ้าพูดว่า
‘ข้าพเจ้าทุกข์ยากเต็มทนแล้ว’ ”
(สดุดี 116:10)
พระเจ้าข้า ข้าพเจ้า อยู่ที่นี่
โปรดทรงชี้ ทางธรรม นำทางข้าฯ
ให้ดวงใจ ข้าฯเปี่ยม ด้วยเมตตา
พร้อมเยียวยา รู้คุณค่า แห่งผู้คน
…………………………. |