“เพราะผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้น  และเขาจะมีเหลือเฟือ

แต่ผู้ที่มีน้อย สิ่งเล็กน้อยที่เขามีก็จะถูกริบไปด้วย”

(มัทธิว 25:29)

ข้าพเจ้าเคยสงสัยพระวาจาตอนนี้ว่า

ทำไมผู้ที่มีมากจึงยังต้องได้รับเพิ่มมากขึ้นอีกเล่า

ทำไมคนมีน้อยจึงยังต้องถูกริบไปอีก

อันที่จริงแล้ว ข้าพเจ้ากลับมาคิดทบทวน ไตร่ตรองดู

คนมีมากส่วนใหญ่เพราะเขาสามารถจับจุดตัวเองได้ว่าอะไรคือพระพรของตน

อะไรคือความสามารถพิเศษของตน

และเขาก็ใช้ความสามารถนั้นในการพัฒนาตนจนประสบความสำเร็จ

ยิ่งพัฒนา ยิ่งใช้พระพรที่ตนมีมากเท่าไหร่

พระพรนั้นก็จะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น

ข้าพเจ้ามีเพื่อนร่วมงานอยู่คนหนึ่ง เขามีความสามารถด้านการออกแบบ

โดยเฉพาะการออกแบบชิ้นงานจากคอมพิวเตอร์

ดังนั้น หน่วยงานและเพื่อนๆจึงมักจะขอความช่วยเหลือจากเขาเสมอ

อันที่จริงแล้ว ข้าพเจ้ารู้จักเขาตั้งแต่เขายังไม่ได้แสดงออกถึงศักยภาพตนเองด้วยซ้ำ

แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นการพัฒนาอย่างชัดเจนคือ

ทุกครั้งที่มีเพื่อนร่วมงานมาขอความช่วยเหลือเขา

ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นเขาปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือเลย

ดังนั้น  ความสามารถที่เขามี  ข้าพเจ้าขอเรียกความสามารถนี้ว่าเป็นพระพร

จึงเพิ่มพูนและทวีมากยิ่งขึ้น

จากการออกแบบด้วยโปรแกรมหนึ่ง เขาก็เก่งขึ้นในอีกหลายๆโปรแกรมในเวลาต่อมา

งานที่เป็นผลผลิตจากพระพรพิเศษของเขา

ทำให้เขามีพระพรนั้นทวียิ่งขึ้นจนข้าพเจ้าสัมผัสได้ถึงความน่ามหัศจรรย์ของพระเจ้า

ผู้ประทานพระพรอันพิเศษแก่ผู้ที่สมควรจะได้รับ

โดยเฉพาะเมื่อผู้รับเห็นคุณค่าและใช้พระพรนั้นเพื่อรับใช้คนรอบข้างด้วยความรัก

แต่บางคนกลับใช้พระพรของตนเพื่อทำร้ายคนอื่น

เบียดเบียนทำลาย กดขี่ข่มเหงคนอื่น ขาดความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน

เพราะเห็นว่าตนมีพระพรที่เหนือกว่าคนรอบข้าง

ขาดความประมาณตน  ใช้ชีวิตอยู่บนความทะนงหลงผิด

พระพรที่เขามีมิได้เพิ่มพูนขึ้นเลย  มันกลับไม่มีคุณค่าต่อใครแม้แต่ตัวของเขาเอง

“เราอย่าหลับใหลเหมือนคนอื่น

จงตื่นอยู่เสมอ และจงรู้จักประมาณตน”

(1 เธสะโลนิกา 5:6)

ข้าพเจ้ามีความเชื่อมั่นอีกเรื่องหนึ่งว่า

ด้วยพระพรที่พระทรงมอบให้มนุษย์แต่ละคนนั้น

แม้จะได้รับมามากน้อยเพียงใด

แต่หากเรานำพระพรนั้นไปใช้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

เราจะไม่มีวันตกต่ำ เราจะไม่มีวันถูกทอดทิ้งไปจากสายพระเนตรของพระเจ้า

และจากสายตาของเพื่อนมนุษย์เลยจริงๆ

แม้บางครั้งสิ่งที่เราช่วยเหลือใครสักคนหนึ่งไปนั้น

เขาจะไม่เคยเห็นคุณค่าของมันเลย

หรือแม้แต่เขากลับสนองคืนด้วยการทำร้ายเรา

แต่ในความทุกข์ยากแห่งความผิดหวัง เราจะต้องได้รับชัยชนะในสักวันหนึ่ง

“ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมเป็นสุข

เขาเดินอยู่ในมรรคาของพระองค์

ท่านจะมีอาหารกินจากงานที่ท่านทำ

ท่านจะเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง”

(สดุดี 128:1-2)

“ยิ่งแบ่งปัน ยิ่งเติบใหญ่

ยิ่งรู้ให้ ใจเติบกล้า

ยิ่งแบ่งรัก แบ่งเมตตา

ยิ่งมีค่า ยิ่งเติบโต”

.......................................

S