“จงตามเรามาเถิด เราจะทำให้ท่านเป็นชาวประมงหามนุษย์”
(มัทธิว 4:19)
ซีโมนเปโตรและอันดรูว์น้องชาย เขาทั้งสองเป็นชาวประมง
ในขณะที่เขากำลังทอดแหอยู่
พระเยซูเจ้าทรงเรียกเขา เขาทั้งสองก็ทิ้งแหไว้
และติดตามพระองค์ไปทันที
ทำไมท่านทั้งสองจึงตัดสินใจไม่ยากที่จะติดตามพระเยซูเจ้าไป
การตัดสินใจที่จะติดตามใครสักคนหนึ่งนั้น
แสดงให้เห็นว่าเขาต้องเคยสัมผัสชีวิตของกันและกันมา
ท่านทั้งสองเต็มที่กับพระเจ้า และใช้ชีวิตกับพระองค์
จึงไม่ยากที่จะตัดสินใจเช่นนั้น
ส่วนข้าพเจ้าเล่า เต็มที่กับพระเจ้ามากน้อยเพียงใด
และดำเนินชีวิตในแต่ละวันใกล้ชิดกับพระองค์มากน้อยแค่ไหน
มากพอที่จะไว้วางใจ และมอบตัวเองให้กับพระองค์ในทุกกิจการหรือไม่
.........................
ข้าพเจ้ามั่นใจว่า คริสตชนแต่ละคน ถูกเรียก และถูกเลือกมา
ให้มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไปอย่างเหมาะสม
เพราะความแตกต่างกันนี้ จะเป็นส่วนเติมเต็มให้แก่กันและกันได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
หากแต่ว่าการถูกเรียกและถูกเลือกนั้น
เป็นไปด้วยความไว้วางใจและมีจิตแห่งการรับใช้ด้วยความรักของพระเจ้า
เป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต
กระแสเรียกของเราแต่ละคนจึงจะมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
..............................
มันเป็นการยากที่เราจะเลือกอย่างหนึ่งแล้วต้องทิ้งอีกอย่างหนึ่ง
มันเป็นการยากที่เราจะเดินหันหลังให้ความสุขสบายและเดินเข้าไปหาความทุกข์ยาก
แต่การถูกเรียกและถูกเลือกมักมาควบคู่กับความยากลำบากในการตัดสินใจ
เณรน้อยลูกชายของข้าพเจ้ากับชีวิตวัยรุ่นที่ควรเป็น
นับแต่เขาก้าวเข้าสู่รั้วบ้านเณร
เขาต้องเรียนรู้ที่จะสละน้ำใจตนเองต่อความสุขสบายในชีวิต
การสละน้ำใจตนเองเพื่อก้าวเดินไปในทางสายใหม่นั้นยาก
แต่การรักษาไว้ซึ่งความอดทนต่อความยากลำบาก และความรู้สึกกดดันนั้น
ยากลำบากมากกว่ายิ่งนัก
กระแสเรียกถูกเรียกร้องให้ต้องอะลุ่มอล่วยต่อการใช้ชีวิตของเณร
ในสังคมปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
ข้าพเจ้าแอบนึกเล่นๆว่า ถ้าพระเยซูเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าในสังคมปัจจุบันนี้
ข้าพเจ้าก็คงห่วงหน้าพะวงหลัง
คิดไม่ตกว่าจะติดตามพระองค์ไปได้เยี่ยงไร
ข้าพเจ้ายังเป็นคนของโลกนี้มากกว่าที่จะเป็นคนของพระองค์
การตอบรับพระองค์จึงยังคงบางเบา และมีข้ออ้างอยู่เสมอ
ดังนั้นแล้ว สิ่งที่ข้าพเจ้าทำได้ดีที่สุดคือ
ใช้ชีวิตให้ใกล้ชิดกับพระองค์ให้มากที่สุด
เต็มที่กับพระองค์ให้มาก
เพื่อว่าเมื่อดวงใจของข้าพเจ้ามีความรักเพื่อพระองค์มากพอแล้ว
การตัดสินใจก็คงไม่ยาก
เหมือนคู่รักที่รักกัน ไม่ยากที่จะยอมรับกันและกัน
และพร้อมจะก้าวไปด้วยกันแม้หนทางนั้นจะทุกข์ยากเพียงใดก็ตาม
“ข้าพเจ้าขอเพียงสิ่งเดียวจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
สิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าแสวงหา
คือการได้พำนักอยู่ในพระเคหาขององค์พระผู้เป็นเจ้าทุกวันตลอดชีวิต”
(สดุดี 27:4)
โปรดเปลี่ยน ดวงใจ ของลูกเถิด
โปรดทรงเปิด ประตู ดวงใจนี้
ให้พระองค์ เข้ามา ในชีวี
คอยนำทาง ลูกนี้ ให้ก้าวไป
ให้ทุกวัน เป็นวัน ของพระองค์
ขอโปรดทรง ครอบครอง ดวงใจให้
เปี่ยมด้วยรัก เมตตา รู้รับใช้
มีพระองค์ ชิดใกล้ ในหนทาง
……………………………… |