“พระเจ้าจะไม่ประทานความยุติธรรม
แก่ผู้เลือกสรรที่ร้องหาพระองค์ทั้งวันทั้งคืนดอกหรือ”
(ลูกา 18:7)
.......................................
คำภาวนาของเราไม่เคยไร้ค่าในสายพระเนตรของพระเจ้า
ตราบใดที่เรายังภาวนาด้วยความเชื่อ
พระเจ้าจะทรงสดับฟังและประทานสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเรา
...ข้าพเจ้าถูกสามีขอร้องให้ช่วยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ที
ด้วยว่าข้าพเจ้าไม่เคยสนใจจะซื้อ หากซื้ออาจจะถูกก็ได้
แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่ใส่ใจจะซื้ออยู่นั่นเอง
แม้ในใจจริงๆ ข้าพเจ้ายังแอบอิจฉาเมื่อได้ยินข่าว
คนที่ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล และนึกใฝ่ฝันว่าอยากจะถูกบ้างก็ตาม
แต่เมื่อข้าพเจ้ามานึกทบทวนว่า
หากข้าพเจ้าถูกรางวัลที่ 1 แล้ว ข้าพเจ้าจะยังคงทำหน้าที่ครู
ผู้รับใช้ของพระเจ้าต่อไปอีกหรือไม่
พระเจ้าทรงทราบคำตอบดี... ^^
พระเจ้าจะทรงสดับฟัง และประทานสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ข้าพเจ้าจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง
ยังคงมีภาระใช้จ่ายมากมาย
มีบุตรธิดา 3 ชีวิตให้ดูแล ด้วยเงินเดือนครูอันน้อยนิด
แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้ามีปัญหาด้านการเงิน
พระเจ้าจะทรงหาหนทางออกให้ข้าพเจ้าเสมอ
ทุกคำภาวนาไม่เคยไร้ค่า
เมื่อปีที่แล้ว ข้าพเจ้าขับรถชนท้ายรถฟอจูนเนอร์คันหนึ่ง
รถข้าพเจ้าไม่มีประกัน ข้าพเจ้าต้องจ่ายค่าเสียหายมากมายแน่นอน
ข้าพเจ้าไม่มีความรู้เรื่องประกัน เมื่อประกันฝ่ายเสียหายเดินทางมาถึง
สิ่งที่ข้าพเจ้าทำได้คือ ให้ทุกอย่างที่เค้าต้องการ
ลืมแม้แต่ขอเบอร์โทรศัพท์ผู้เสียหายมาด้วย
และนับวันรอคอยให้ประกันฝ่ายเสียหายโทรมาแจ้งยอดที่ข้าพเจ้าต้องชำระ
ด้วยใจไม่สู้ดีนัก ข้าพเจ้าภาวนาๆ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี
ในวันที่ประกันส่งจดหมายมาแจ้งเรื่องค่าเสียหาย
ข้าพเจ้าตัดสินใจปรึกษาเรื่องนี้กับผู้มีพระคุณท่านหนึ่งที่ทำงานประกันอยู่
ผู้มีพระคุณท่านนี้ช่วยเป็นธุระจัดการขอลดหย่อยค่าเสียหายให้ข้าพเจ้า
ลดไปเยอะมาก มากจนข้าพเจ้าอยากจะพร่ำบอกขอบพระคุณเขาข้ามคืน
ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงสดับฟังคำภาวนาของข้าพเจ้า
พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งผู้ที่เชื่อ และอ้อนวอนพระองค์
ภาวนาด้วยความเพียรทน
ไม่พร่ำบ่นแม้ต้องผิดหวัง
ตราบที่มีพระองค์เป็นพลัง
ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไป
พระองค์จะประทานสิ่งที่ดี
แต่อาจไม่ตรงใจเรานี้ใช่ไหม
ทุกเหตุการณ์มีความหมายตรงที่ใจ
เพราะสิ่งที่พระมอบให้ควรค่าแน่นอน
…………………………….
“อบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม
คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพ
เพื่อกิจการดีทุกอย่าง”
(2 ทิโมธี 3:16-17)
“คนของพระเจ้า” คำนี้สร้างความรู้สึกให้ข้าพเจ้า คล้ายๆกับคำว่า “เด็กเส้น”
แต่คำว่า “เด็กเส้น” ความหมายจะออกไปในทางลบมากกว่า
เพราะเด็กเส้นแม้ทำผิดมักจะได้รับการยกเว้น
ผิดกับ “คนของพระเจ้า” ที่ต้องดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม
แม้หลงทางก็ต้องรีบกลับมาในตรงทาง
เพื่อไม่ให้อับอายที่จะได้ชื่อว่า “คนของพระเจ้า” โดยสมบูรณ์
“คนของพระเจ้า” มีพระเจ้าชี้นำทาง
“คนของพระเจ้า” ทำทุกอย่างตามคำพระเจ้าสอน
“คนของพระเจ้า” แม้ผิดพลาดในบางบทตอน
“คนของพระเจ้า” จะย้อนกลับมาทบทวนพิจารณา
จะหมั่นดำเนินชีวิตบนความชอบธรรม
เพราะคำพระเจ้าเน้นย้ำนั้นทรงคุณค่า
“คนของพระเจ้า” ต้องพร้อมสรรพทุกวันเวลา
ทุกก้าวย่างจึงต้องมีค่าให้สมคำว่า “คนของพระองค์”
......................................... |