“คนหนึ่งในสิบคนนี้ เมื่อพบว่าตนหายจากโรคแล้ว
ก็กลับมา พลางร้องตะโกนสรรเสริญพระเจ้า
ซบหน้าลงแทบพระบาท ขอบพระคุณพระองค์”
(ลูกา 17 :15-16)
......................................
คนโรคเรื้อนสิบคนที่พระเยซูเจ้าทรงรักษาด้วยพระเมตตาสงสาร
เมื่อพวกเขาหายจากโรคเรื้อนที่สังคมรังเกียจแล้ว
มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่กลับมาขอบพระคุณพระเยซูเจ้า
คนเดียวคนนั้นที่เป็นชาวสะมาเรีย เป็นคนต่างชาติที่ถูกชาวยิวดูถูกดูแคลน
เป็นคนเดียวที่กลับมาซบหน้าลงแทบพระบาท
ด้วยความกตัญญูรู้คุณต่อพระเมตตาของพระองค์
ข้าพเจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับคนโรคเรื้อนสิบคนนั้น
เป็นคนบาปที่ถูกดูหมิ่นดูแคลน
เพราะบาปร้ายที่ตรึงติดกับวิญญาณของข้าพเจ้า
กี่ครั้งกี่หนที่ข้าพเจ้าต้องทนทรมานอยู่กับบาปร้ายในใจของตน
จนกระทั่งพระเมตตาของพระเจ้าไหลหลั่งลงมา
ชะล้างวิญญาณข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์
และร่ำร้องขอการอภัย และการเยียวยารักษา
ประสบการณ์ความเชื่อจะเตือนเราว่า
นี่คือพระเมตตาที่พระเจ้าทรงเยียวยารักษาบาปร้ายของเรา
เมื่อข้าพเจ้าได้รับการเยียวยารักษาแล้ว
ข้าพเจ้าจึงสมควรที่จะมีจิตสำนึกของการสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้า
เพื่อว่าพระเมตตาของพระเจ้าจะทำงานในวิญญาณของข้าพเจ้าอย่างเต็มที่
“เมื่อเราได้รับ การได้รับนั้นจะสมบูรณ์ เมื่อเรารู้จักขอบพระคุณ”
พระเยซูเจ้าทรงสอนข้าพเจ้าให้รู้จักขอบพระคุณ เมื่อได้รับพระเมตตา
รู้จักขอโทษเมื่อกระทำสิ่งที่ผิดพลาด
.................................
ความสำเร็จของคนหลายคน ต่างมีเบื้องหลังของความสำเร็จนั้น
จะมีสักกี่คนที่ยินดีเมื่อเราได้ดี
จะมีสักกี่คนที่คอยชื่นชมเมื่อเราเจริญก้าวหน้า
ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จเหมือนผู้ปิดทองหลังพระ
จงอย่าลืมที่จะขอบพระคุณและกตัญญูรู้คุณต่อเขา
..................................
...ข้าพเจ้าจะขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี…
ขอบพระคุณแม้ในวันที่เลวร้ายของชีวิต
ขอบพระคุณวันที่ผิดพลาดหรือสุขสมหวัง
ขอบพระคุณในวันที่พายุโถมประดัง
ขอบพระคุณในวันที่มีพลังมาเยียวยา
ขอบพระคุณในทุกทุกกิจการ
ขอบพระคุณทุกวันวารทรงคุณค่า
ขอบพระคุณเพราะพระทรงเมตตา
ขอบพระคุณมานาอาหารใจ
...........................
“จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี”
(1 เธสะโลนิกา 5:18)
มนุษย์เป็นสิ่งสร้างที่พระเจ้าทรงรัก และทรงพระเมตตา
พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งมนุษย์ ทรงเอาพระทัยใส่ เยียวยารักษา
ดังนั้น ทุกกิจการของมนุษย์จึงต้องการความช่วยเหลือจากพระเจ้า
แต่พระเจ้าทรงมอบอิสรภาพให้แก่มนุษย์
ที่จะเลือกในการทำสิ่งที่ดีและไม่ดี
เลือกที่จะพึ่งพาพระเจ้าหรือมารร้าย
ข้อความหนึ่งกล่าวว่า
“อัศจรรย์คือความร่วมมือกันระหว่างพระหรรษทานของพระเจ้า
กับตัวเราผู้มีความเชื่อ”
ตราบใดที่เราขาดความเชื่อ
พระหรรษทานของพระเจ้าก็มาไม่ถึงเรา
ผู้เชื่อเท่านั้นที่จะหายจากโรคร้าย
และผู้ที่เชื่อด้วยใจกตัญญูจะกลับมาขอบพระคุณพระเจ้า
ในทุกกิจการที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตน
......................................... |