“ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง”

(ลูกา 9:23)

ในแต่ละวัน ข้าพเจ้าต้องตื่นตี 4 เพื่อหนีการจราจรที่แออัดในกรุงเทพฯช่วงเช้า

เพื่อไปทำงานให้ทันเวลา  ข้าพเจ้าถึงที่ทำงานตี 5 ครึ่ง ของทุกวัน

และกลับถึงบ้านหกโมงเย็นหรือค่ำกว่านั้นหากติดธุระต่ออีก

ชีวิตที่จำเจตั้งแต่เช้าจรดค่ำของแต่ละวัน

หากจะคิดให้ทดท้อ ข้าพเจ้าก็ทดท้อเสียเหลือเกิน

ในทุกๆเช้าข้าพเจ้าต้องวอนขอพลังจากพระเจ้า

เพื่อให้จิตใจข้าพเจ้าสามารถต่อสู้กับความเกียจคร้านให้จงได้

ในวันที่พลังข้าพเจ้ามากพอ ร่างกายข้าพเจ้ายังเต็มร้อย

ข้าพเจ้าก็จะไม่อิดออดที่จะปฏิบัติภารกิจจำเจด้วยความยินดี

แต่ในวันที่ข้าพเจ้าอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ

บอบช้ำไปด้วยปัญหานานาประการ

ข้าพเจ้ารู้สึกอยากให้มีราตรีกาลที่ยาวนานตลอดไป

เพื่อจะได้ไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้ปัญหาของวันใหม่ให้ระทมใจกว่าเดิม

มันเป็นไปไม่ได้  เพราะเรายังเป็นส่วนหนึ่งของโลก

เรายังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

เรายังวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของชีวิต

ที่ต้องต่อสู้เพื่อคนรอบข้าง เพื่อครอบครัวของเรา

เรายังต้องสะสมคุณความดี

ความทดท้อเกิดจากความสงสารตัวเอง

ความอ่อนแอเกิดจากความไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง

ข้าพเจ้าพยุงกายตัวเองให้ลุกขึ้นในวันอ่อนล้า

เพื่อจะยืนหยัดต่อสู้กับความอ่อนแอฝ่ายกาย

ตามพระวาจาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนข้าพเจ้าว่า

“ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา ก็จงเลิกนึกถึงตนเอง

จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวัน และติดตามเรา”

(ลูกา 9:23)

มีข้อคิดสะกิดใจข้อความหนึ่งของ ดร. มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

กล่าวเอาไว้ว่า

 ถ้าคุณบินไม่ได้ก็วิ่ง   วิ่งไม่ได้ก็เดิน   เดินไม่ได้ก็คลาน

ทำอย่างไรก็ได้ให้เคลื่อนไปข้างหน้า
ดังนั้น  หากข้าพเจ้าบินไปพร้อมกับกางเขนไม่ได้

ข้าพเจ้าก็จะเดินไปพร้อมกับกางเขนของข้าพเจ้า

และหากข้าพเจ้าเดินไปพร้อมกับกางเขนไม่ไหว

ข้าพเจ้าก็จะคลานไปพร้อมกับกางเขนของข้าพเจ้า

ถ้าแย่ไปกว่านั้น

ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรก็ได้

เพื่อนำกางเขนของข้าพเจ้าเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างอดทนจนถึงที่สุด

เพราะข้าพเจ้ารู้ว่า ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าก้าวไปด้วยความขมขื่น

พระองค์จะทรงคอยเติมน้ำแห่งชีวิตลงเหนือข้าพเจ้า

ให้พอเหมาะกับเส้นทางที่ข้าพเจ้ากำลังก้าวไป

“ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์ตั้งแต่เช้าตรู่

จิตใจข้าพเจ้ากระหายหาพระองค์

ร่างกายข้าพเจ้าปรารถนาจะพบพระองค์

เหมือนผืนดินที่แห้งผาก  แห้งแล้ง  ไม่มีน้ำ”

(สดุดี 63:1-2)

“ขอบพระคุณ  ลมหายใจ  ในวันนี้

ขอบพระคุณ  โอกาสดี  ที่พระให้

ขอบพระคุณ  พระเมตตา  ยามล้าใจ

ลูกคนนี้  จะก้าวไป  อย่างอดทน”

………………………..

S