“ซีโมนบุตรของยอห์น
ท่านรักเรามากกว่าคนเหล่านี้รักเราไหม”
(ยอห์น 21:15)
................................................
พระเยซูเจ้าตรัสถามเปโตรถึงสามครั้งสามครา
ว่าเปโตรรักพระองค์หรือไม่
พร้อมที่จะละทิ้งความสุขสบายฝ่ายโลกเพื่อพระองค์ไหม
พร้อมที่จะละทิ้งทรัพย์สมบัติ บุคคลอันเป็นที่รักเพื่อพระองค์หรือเปล่า
และแม้ว่าในอดีตนั้นเปโตรจะเคยปฏิเสธพระองค์ถึงสามครั้งก็ตาม
แต่พระเยซูเจ้าไม่เคยที่จะปฏิเสธความรักที่มีต่อเปโตรเลย
พระองค์ทรงเลือกสรรเปโตรเพื่องานที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์
……………………………………
เมื่อสมัยข้าพเจ้ายังเป็นนักเรียน
ข้าพเจ้ามีอคติกับวิชาคณิตศาสตร์ตั้งแต่ประถมจนกระทั่งมัธยม
ไม่เคยมีครูสักท่านหนึ่งที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกรักวิชานี้ขึ้นมาเลย
ข้าพเจ้าไม่โทษครู เพราะข้าพเจ้ารู้ถึงศักยภาพของตนเองดี
ข้าพเจ้าถนัดงานประดิดประดอย ขีดเขียน ศิลปะ มากกว่า
จนกระทั่งข้าพเจ้าได้รู้จักครูสอนคณิตศาสตร์ท่านหนึ่ง
ท่านมีบุคลิกที่อ่อนโยน เยือกเย็น และแลจะเอื้อเอ็นดูข้าพเจ้าเป็นพิเศษ
ครูมักสอนข้าพเจ้ามากกว่าวิชาคณิตศาสตร์
ครูสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักที่จะรักตนเอง
เขียนบทภาวนาให้ข้าพเจ้าถวายตัวเองกับพระอยู่เสมอ
คอยย้ำเตือนข้าพเจ้าในทางบวกตลอดเวลา
ครูได้ใจข้าพเจ้าไปเต็มร้อย
ดังนั้น แม้ว่าข้าพเจ้าจะรู้สึกไม่ชอบวิชานี้เพียงใด
แต่ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเรียนกับครูท่านนี้
ข้าพเจ้าจะพยายามตั้งใจเรียน เมื่อไม่เข้าใจก็พยายามถามเพื่อน
พยายามไม่ค้างงานแม้จะทำไม่ได้ก็ตาม
“เพราะรักใช่ไหม จึงทำได้ถึงเพียงนี้
เพราะรักที่มี เพราะพระองค์ใช่ไหม
ดวงใจที่เปี่ยมรัก ช่างเป็นดวงใจที่ยิ่งใหญ่
เป็นดวงใจของผู้ให้...ให้ความครบครัน”
https://www.youtube.com/watch?v=DnoUvkDkHh8
เป็นความจริงที่ว่า
“ถ้ามีความรักไม่ต้องสั่งก็จะทำสำเร็จได้ด้วยใจ
แต่หากร้างไร้ซึ่งความรัก
กระทำการใดก็ไร้ผล”
พระเยซูเจ้าตรัสถามเปโตรเพื่อให้แน่ใจว่า
เปโตรพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อประชากรของพระองค์หรือไม่
ประชากรที่พระองค์ทรงรัก
“จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
(ยอห์น 21:15,16,17)
พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าพระศาสนจักรต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใดบ้าง
พระองค์จึงทรงเลือกสรรด้วยความมั่นใจที่จะมอบหมายอำนาจยิ่งใหญ่นี้
ให้กับเปโตรได้เป็นผู้นำด้วยความเข้มแข็งต่อไป
แม้เปโตรจะเคยปฏิเสธพระเยซูเจ้าด้วยความอ่อนแอในฐานะความเป็นมนุษย์
แต่เปโตรก็ได้กลับมาเพื่อยืนยันถึงความรักต่อพระเยซูเจ้าอีกครั้ง
ด้วยชีวิตและกิจการของท่านเองเพื่อการประกาศข่าวดีของพระเจ้า
และปกครองดูแลพระศาสนจักรของพระองค์ด้วยความเอาใจใส่อย่างจริงจัง
...................................................
ข้าพเจ้าไตร่ตรองตนเองว่า
“แล้วข้าพเจ้าในฐานะคริสตชน
ข้าพเจ้าปฏิเสธพระเยซูเจ้าผ่านกิจการเลวร้ายกี่ครั้งกี่ครา
ในขณะที่ข้าพเจ้าตำหนิเปโตรที่ปฏิเสธพระองค์
แต่เป็นข้าพเจ้าเองที่ทอดทิ้งและปฏิเสธพระองค์
เพื่อความสุขสบายของตนเอง
ข้าพเจ้าทำหน้าที่คริสตชนด้วยภารกิจพิเศษใดบ้าง
ที่เป็นภารกิจแห่งรักเพื่อผู้อื่น”
.................................................. |