“ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต

ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน”

(ลูกา 13:5)

................................................

เหตุการณ์ในทุกๆวันคอยจะบั่นทอนวิญญาณของเราให้ไหวเอน

คอยจะสร้างรอยแผล และรอยทดท้อในหัวใจให้อย่างต่อเนื่อง

เฉพาะอย่างยิ่งในเทศกาลมหาพรต

ปีศาจทำงานอย่างแข็งขันกับทุกดวงวิญญาณ

ใครอ่อนแอก่อนแพ้

ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้การอบรมบรรดาครูคาทอลิกว่า

“เทศกาลมหาพรตเป็นเทศกาลแห่งการพลีกรรม  ให้อภัย

ลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร หรือเกินความพอดี”

ยิ่งเราพยายาม เรายิ่งเจ็บ ยิ่งเหนื่อย

หลายคนทดท้อไปด้วยเหตุผลที่ว่า

อยู่ดีดี สบายๆ ก็ดีอยู่แล้ว

จะรนเข้าไปหาที่ให้เจ็บตัวเหนื่อยใจทำไมเล่า

เมื่อเราใช้ชีวิตบนความสบายใจ ทำอะไรสบายใจก็ทำ

ไม่ข้องเกี่ยวกับใคร  ไม่ยื่นมือเข้าไปเพื่อช่วยเหลือใคร

หรือไขว่คว้าหาแต่ความสุขของตัว

เราก็อ่อนแอ และแพ้จนได้

มหาพรต เป็นอีกโอกาสที่ให้เรามีจิตสำนึกที่จะกลับตัวกลับใจ

ในขณะที่เรายังมีโอกาสนั้นอยู่

โอกาสแห่งการกลับตัวกลับใจ  ที่หลายคนอาจไม่ได้สัมผัส

เมื่อโอกาสนั้นหมดไปพร้อมกับร่างกายที่เน่าเปื่อยไปแล้ว

เราก็ได้แต่ยืนรอรับคำพิพากษาครั้งสุดท้าย

...................................

“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปฏิบัติด้วยความเที่ยงธรรม

ประทานความยุติธรรมต่อทุกคนที่ถูกข่มเหง”

(สดุดี 103:6)

“ความตาย” เป็นประตูนำเราไปสู่คำพิพากษา

เมื่อความตายมาเยือน

โอกาสของการกลับใจก็หมดไป

........................................

ขอให้ลูก  ยึดมั่น  ความเที่ยงธรรม

มีพระองค์  ทรงนำ  สู่จุดหมาย

แม้อธรรม  มาข่มเหง  จนวันตาย

ลูกไม่คลาย  ความภักดี  มีต่อองค์

หากวันใด  วิญญาณลูก  ต้องพ่ายแพ้

ทดท้อแท้    อ่อนแอ   เตลิดหลง

ความยุติธรรม   นำทางลูก  ให้มุ่งตรง

กลับคืนองค์  ตรงสู่  พระราชัย

....................................

S