“พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า

มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ”

(ลูกา 4:4)

.................................................

หากเรามีฤทธิ์อำนาจเช่นพระเยซูเจ้า

ในวันที่เรารู้สึกขาดแคลน

เราคงใช้อำนาจของเราเพื่อปรนเปรอความสุขสบายของตนเอง

ในขณะที่มนุษย์พยายามดิ้นรนต่อสู้เพื่อเลี้ยงปากท้องของตนเองและครอบครัว

แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “มนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น”

การเดินไปข้างหน้าอย่างดิ้นรนขวนขวาย

เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวก

ชีวิตที่สุขสบายจนลืมมองรายทางที่เราผ่านมา

ว่ามีกี่ชีวิตที่กำลังอดอยาก  มีกี่ชีวิตที่ยื่นมือขอเศษอาหาร น้ำดื่มอยู่ข้างทาง

เมื่อเราจ้องมองแต่กระเป๋าและสองมือของตนเอง

ว่าหยิบฉวยอะไรมาได้บ้างแล้ว  พอที่จะอำนวยสุขให้เรานานเพียงใด

เราก็ไม่มีสายตาแห่งเมตตาธรรมที่จะแลเห็นคนรอบข้างที่กำลังทุกข์ยาก

ปีนี้พระสันตปาปาทรงตั้งให้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม

มีภารกิจ 7 อย่างที่คริสตชนพึงปฏิบัติ

คือออกจากตนเองและก้าวไปหาผู้ที่ทุกข์ยากกว่า

และยิ่งกว่านั้นคริสตชนถูกเน้นย้ำในภารกิจแห่งเมตตาธรรมนี้

โดยเฉพาะในเทศกาลมหาพรต

สิ่งที่เรา ลด ละ เลิก ก็ยังสามารถนำไปสร้างสุขให้ผู้ด้อยโอกาสได้ด้วย

…………………………….

หนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่า 2016 ชีวิตนี้...ห้ามสอบตก

เขียนโดย คุณปอล แมรี่  สุวิช    สุวรุจิพร

บอกเล่าเรื่องราวของพระศาสนจักร และวัฏจักรชีวิต

ข้าพเจ้าไตร่ตรองภาพหน้าปกของหนังสือ

ที่เป็นภาพจิ๊กซอชีวิตมนุษย์ตั้งแต่ปฏิสนธิ

จนถึงวันสุดท้ายของชีวิตที่ประตูสวรรค์

ข้าพเจ้าลำดับเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตของเรา

เราแต่ละคนต่างดำเนินชีวิตไปตามครรลองที่เคยเป็นมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

ใช้ชีวิตตั้งแต่แรกเกิด  เติบโต  เรียน  ทำงาน แต่งงาน มีครอบครัว

แก่  เจ็บป่วย และตาย

หมุนเวียนไปเป็นวัฏจักรที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย

แต่คริสตชนแตกต่างตรงที่เราดำเนินชีวิตมีความหมายมากกว่านั้น

ทุกช่วงชีวิตของเรามีศีลศักดิ์สิทธิ์  มีพระพร

มีพระเมตตาที่คอยหล่อเลี้ยงเรา

มีคำสอนของพระเจ้าที่คอยตักเตือนเราให้เรามีความแตกต่าง

มากกว่าคนธรรมดาที่ควรจะเป็น

หนังเรื่องหนึ่งชื่อเรื่องว่า “เดอะดาวน์  เป็นคนธรรมดามันง่ายไป”

เป็นหนังละครสะท้อนชีวิตของเด็กดาวน์ซินโดรม

ที่เขาเหมือนมีโลกอีกโลกหนึ่ง ที่แตกต่างจากโลกของเรา

ความไม่ธรรมดาของเขา ทำให้คนธรรมดาอย่างเราต้องหันกลับมามอง

และแอบอิจฉาในความสุข สดใส บริสุทธิ์ของพวกเขา

คริสตชนก็เช่นกัน  เราจะเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้นหรือ?

เรามีอะไรที่แตกต่าง และไม่ธรรมดาจนน่าค้นหา น่าอิจฉาบ้างหรือเปล่า?

……………………………………

“ทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์ จะไม่ได้รับความอับอาย”

(โรม 10:11)

…………………………………..

S