“ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”

(ยอห์น 18:37)

....................................................

ข้าพเจ้าค้นหานิยามของคำว่า ความจริงในโลกออนไลน์

ก็พบความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป

บ้างก็ว่า “ความจริงของคนหนึ่ง ก็อาจจะไม่ใช่ความจริงของอีกคนหนึ่งก็ได้”

บ้างก็ว่า “ความจริงนั้นนิยามไม่ได้”

แต่พระเยซูคริสตเจ้าได้ตรัสไว้ว่า

“ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”

(ยอห์น 18:37)

ดังนั้นแล้วในฐานะคริสตชน   ความจริงควรจะมาควบคู่กับความเชื่อ

ทั้งนี้แล้วไม่ใช่ความเชื่อที่เลื่อนลอยไปมา

แต่มีหลักฐานของความจริงปรากฏชัดเจนอยู่เสมอ

ในถ้อยคำสอน  ในแบบอย่างของพระเยซูคริสตเจ้า

ที่เป็นความจริงแท้แน่นอน

เมื่อคริสตชนอยู่ฝ่ายความจริง ฟังและปฏิบัติตามความจริงนั้น

เราจึงมั่นใจได้ว่า  เราเดินมาถูกต้องตามเส้นทางที่พระเยซูคริสตจ้าได้นำทางไว้แล้ว

......................................

พระเยซูคริสตเจ้าตรัสว่า

“เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต

ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้นอกจากผ่านทางเรา”

(ยอห์น 14:6) 

........................................

ในสังคมมนุษย์  หลายเหตุการณ์ทำให้เราแยกแยะความจริงได้ยากลำบาก

แต่มโนธรรมของเราจะคอยชี้นำทางเราให้เราสัมผัสได้ว่า

สิ่งใดคือความจริง และสิ่งใดเป็นความเท็จ

ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่ามโนธรรมของคริสตชน

เป็นมโนธรรมที่ละเอียดอ่อนเพราะเราถูกบ่มเพาะมาจากพื้นฐานของความรัก

เราจะสัมผัสได้ง่ายว่าสิ่งใดคือความจริง

จากการยึดหลักคำสอนของพระเยซูคริสตเจ้าเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน

แต่ต้องด้วยใจที่ซื่อสัตย์ไม่โน้มเอียงด้วยเหตุผลส่วนตัวเช่นกัน

ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้ารู้สึกไม่พึงพอใจกับการกระทำของรุ่นพี่ท่านหนึ่ง

ที่ดูเหมือนจะขาดเหตุผลในสิ่งที่ทำต่อผู้อื่นจริงๆ

จนข้าพเจ้ารับไม่ได้ และรู้สึกขัดเคืองในใจยิ่งนัก

ข้าพเจ้ากลับมารำพึงขอแสงสว่างจากพระเจ้า

ให้ข้าพเจ้าได้เห็นถึงเหตุผลที่เขาทำเช่นนั้น

ข้าพเจ้าพยายามปรับทัศนคติของข้าพเจ้าให้เป็นกลาง

และพยายามมองมุมกลับกันว่าถ้าเราเป็นเขา จะทำอย่างไร

แสงสว่างของพระเยซูคริสตเจ้า องค์ความจริง

ส่องสว่างความจริงลงในใจข้าพเจ้าเสมอ

ให้เหตุการณ์เลวร้ายทางความคิดต่อผู้อื่น

แปรเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ และการยอมรับมากยิ่งขึ้น

.........................................

“พระองค์ทรงรักเรา และทรงปลดเรา

ให้พ้นจากบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์”

(วิวรณ์1:5)

...............................................

ข้าฯจะอยู่  เคียงข้าง  ฝ่ายความจริง

แม้บางสิ่ง  จะเอียงเอน  ให้โฉดเขลา

พระโลหิต  ของพระคริสต์  นำทางเรา

บาปใดเล่า  กล้าเข้ามา  นั้นไม่มี

มโนธรรม  นำทาง  ไม่ห่างจิต

นำความคิด  ความเป็นจริง   ในโลกนี้

แบบอย่างองค์  ทรงฤทธิ์  นำชีวี

ข้าฯจึงมี  ความจริงนี้   ชี้นำทาง

................................................

S