“บรรดาผู้ที่ช่วยคนจำนวนมากให้มีความชอบธรรม

จะส่องแสงเหมือนดวงดาวตลอดไป”

(ดาเนียล 12:3)

.............................................

บรรดาผู้ที่แบกภาระหนักต่างเข้ามาวางภาระทั้งสิ้นไว้ในพระองค์

บรรดาผู้ที่ร้องไห้  อ่อนล้าและทดท้อ ต่างเข้ามาพึ่งพระองค์

บรรดาผู้ที่ตกอยู่ในบาป และพ่ายแพ้แก้มารร้าย ต่างมาหาพระองค์

ลูกๆของพระองค์ บ้างก็เป็นที่พึ่งพิงให้กับผู้อื่น ตามแบบอย่างของพระองค์

บ้างก็เช็ดน้ำตาให้กับผู้ที่เป็นทุกข์ เศร้าโศก  เหมือนที่พระองค์ทรงเคยกระทำมา

แต่หลายครั้ง ลูกๆของพระองค์ กลับทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ทั้งด้วยทางกาย วาจา และจิตใจ

ดวงไฟแห่งรักที่พระองค์ทรงมอบใส่ลงในใจลูกๆของพระองค์

มอดดับไปแล้วหรือไร

..................................................

มีแอพริเคชั่นใหม่ค้นหาเกี่ยวกับ

ถ้อยคำในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่อธิบายตัวเราได้ดีที่สุด

ข้าพเจ้าเข้าไปทดลองเล่น

ได้บทสดุดีที่ 62:2  ความว่า

“พระองค์ผู้เดียวทรงเป็นหลักศิลา และทรงเป็นความรอดพ้นของข้าพเจ้า

ทรงเป็นที่มั่นป้องกันข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว”

ในยามที่ข้าพเจ้ารู้สึกหวั่นไหวกับการดำเนินชีวิตไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม

ถ้อยพระวาจาที่มาพร้อมกับความเชื่อมั่นว่า

พระองค์จะทรงปลอบประโลมและบรรเทาใจเราเสมอ

ในทุกเหตุการณ์ที่เราคิดว่ามันช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน

ที่จะยอมรับ หรือก้าวผ่านมันไปได้

แม้ข้าพเจ้าจะทราบดีอยู่แก่ใจว่าพระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้า

แต่หลายครั้งข้าพเจ้าก็หวั่นไหวและอ่อนแอที่จะเอื้อมมือขอพลังจากพระองค์

หมดแรงแม้แต่จะเอื้อมมือหาพระองค์

“พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าไว้ในแดนมรณะ

จะไม่ทรงปล่อยให้ผู้ซื่อสัตย์ของพระองค์ต้องเผชิญเหวลึก”

(สดุดี 16:10)

ข้านั้นเพียง ข้ารับใช้  ผู้ต่ำต้อย

ผิดนับร้อย พลาดนับพัน  ทั้งหวั่นไหว

พระวาจา  แห่งพระองค์  ผู้ทรงชัย

คอยหนุนใจ  ให้ก้าวไป อย่างอดทน

ต่อฟ้าดิน  สลาย มลายสิ้น

พระวาจา คือชีวิน  มิสาบสูญ

คือพลัง แห่งชีวิต  ยามอาดูร

คือพระคุณ  พระเมตตา  ที่ประทาน

“ฟ้าดินจะสูญสิ้นไป  แต่วาจาของเราจะไม่สูญสิ้นไปเลย”

(มาระโก 13:31)

................................................

S