“ไปเถิด ความเชื่อของท่าน
ได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว”
(มาระโก 10:52)
.............................................
“ความเชื่อ” เป็นพระพรที่พระเป็นเจ้าประทานให้เรา
เพียงแค่เรายอมที่จะเปิดใจรับพระพรแห่งความเชื่อนั้นหรือไม่
คาทอลิกได้รับการหล่อหลอมชีวิตบนพื้นฐานของความเชื่อ
และนำความเชื่อนั้นมาเป็นชีวิต
หลักความเชื่อพื้นฐานของเราตามบทภาวนาข้าพเจ้าเชื่อ
เป็นแนวทางความเชื่อของคาทอลิกทุกคน
ที่ต้องมั่นคงและเข้มแข็งที่จะยืนยันซึ่งความเชื่อนั้นโดยไม่หวั่นไหว
อันประกอบด้วย
เชื่อในพระเจ้า พระบิดาพระผู้สร้างสรรพสิ่ง
เชื่อในพระบุตร ผู้บังเกิดมาด้วยอำนาจของพระจิต รับเอาสภาพมนุษย์
สิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปเรา เชื่อในการพิพากษาของพระเยซูเจ้าในแดนมรณะ
และเชื่อในการกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายของพระเยซูคริสตเจ้า
เชื่อในพระจิต ผู้ประทานพระพร พระหรรษทานแก่เรา
เชื่อในพระแม่มารีย์ พระมารดาของพระเยซูเจ้า
เชื่อในพระศาสนจักรที่พระเยซูคริสตเจ้าเป็นผู้สถาปนาไว้
ซึ่งประกอบด้วยความเป็นหนึ่งเดียว สืบต่อจากอัครสาวก
ศักดิ์สิทธิ์ และมีความเป็นสากลทั่วโลก
ความสัมพันธ์หนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นความผูกพันระหว่าง
บรรดามนุษย์ที่อยู่บนโลก วิญญาณในไฟชำระ และบรรดานักบุญในสวรรค์
การอภัยบาป และชีวิตนิรันดร
เคยถามตัวเองบ้างหรือไม่ ว่าเรามั่นคงในความเชื่อตามนี้บ้างไหม
เราเคยหวั่นไหวไปกับความเชื่ออื่นๆ
ที่ทำให้ความเชื่อแท้จริงของเราไขว้เขวไปบ้างหรือเปล่า
ตั้งแต่อดีตมา พระเป็นเจ้าทรงกระทำกิจการแห่งความรักเพื่อมนุษย์
และเดินทางร่วมกับมนุษย์ตั้งแต่พระองค์ทรงสร้างมนุษย์มาแล้ว
ในถิ่นทุรกันดารพระองค์ทรงเลี้ยงดูไม่ให้มนุษย์ขาดแคลนสิ่งใด
“เราจะนำเขาให้เดินไปยังธารน้ำ ให้เดินในทางตรงที่เขาจะไม่สะดุด”
(เยเรมีห์ 31:9)
...................................
ประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า
“ให้ความเชื่อเป็นชีวิต”
และแบ่งปันความเชื่อนั้นออกไปสู่ผู้อื่น
แต่ก่อนจะแบ่งปัน เราต้องมั่นใจว่าความเชื่อของเรายังเข้มแข็งอยู่จริงหรือไม่
เรามีความเชื่อที่มั่นคงพอที่จะแบ่งปันสิ่งที่ถูกต้องให้ผู้อื่นหรือเปล่า
หรือเราใส่ความเชื่อที่ผิดพลาดกับเขา
...................................
ข้าพเจ้าขอบคุณพระเจ้าเสมอ
ที่พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อข้าพเจ้าในทุกกิจการ
ไม่เคยจดจำความผิดพลาดพลั้งของข้าพเจ้า
แม้ความผิดพลาดพลั้งนั้นจะใหญ่หลวงเพียงใด
เพียงแค่ข้าพเจ้าสำนึก เสียใจ และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปทำเช่นนั้นอีก
พระพรของพระเจ้าก็ไหลลั่งมาสู่ชีวิตข้าพเจ้าไม่เคยขาดเลย
ปัญหาชีวิตไม่ใช่การลงโทษของพระเจ้า
แต่เป็นพระพรที่พระทรงมอบประสบการณ์ดีดีให้ข้าพเจ้าได้ฝึกฝน
เพราะข้าพเจ้าอ่อนแอ จึงต้องได้รับประสบการณ์มากมาย
ทั้งดีและร้ายล้วนเป็นพระพรทั้งสิ้น
.....................................
บทเพลงลูกเชื่อพระองค์ขับร้องท่อนหนึ่งไว้ว่า
“ลูกเชื่อพระองค์จงใจเชื่อในพระองค์
ความมืดมัวกันลูกไกลแต่ลูกเชื่อพระองค์
ด้วยพระวาจาเที่ยงธรรมลูกเชื่อยืนยันจริงใจ
ลูกเชื่อพระองค์จงใจลูกเชื่อในพระองค์”
ขอให้ลูกมีความเชื่อที่มั่นคงพอที่จะรัก
และกลับมาพระองค์เสมอ
แม้ในวันที่ผิดพลาดที่สุดของชีวิตก็ตาม
.......................................... |