“ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดาๆ

ที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาป

ถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่

ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่ากระทำดังกล่าว”

(มาระโก 9:42)

……………….

บางครั้งเราก็ลืมไตร่ตรองถึงวิถีชีวิตของเราเอง

ว่าเป็นต้นเหตุของการทำให้ผู้มีความเชื่อต้องเกิดบาปหรือเปล่า

เราเป็นสาเหตุของการทำให้ความเชื่อของใคร

ต้องหวั่นไหว หรือสั่นคลอนหรือไม่

แบบอย่างชีวิตของเราเคยทำให้คนรอบข้างมองเป็นIdol บ้างไหม

........................

“นี่ไง พวกเด็กคาทอลิก ทำผิดระเบียบไม่เห็นเป็นไรเลย”

“นี่ไงพวกคนคาทอลิก ไม่เห็นจะรักกันอย่างที่ศาสนาสอนเลย”

“นี่ไงพวกคาทอลิก .... นั่น  โน่น นี่ สารพัดของภาพลบ”

ผิดไหมที่เราถูกมองให้เป็นแบบอย่างที่เหมือนจะถูกคาดหวังไว้

ตามคำสอนของพระเยซูเจ้า

หลายครั้งข้าพเจ้าก็รู้สึกสะท้อนในใจ

ต่อต้านในความรู้สึกว่า

“คาทอลิกก็มนุษย์นะ...ไม่ใช่เทวดา

อย่าว่าแต่มนุษย์เลย เทวดาเองก็ยังเคยทำผิดพลาดนะ”

แต่เมื่อมาคิดทบทวนดูอีกครั้ง

การถูกตั้งมาตรฐานการดำเนินชีวิตของคาทอลิก

โดยยึดแบบอย่างของพระเยซูเจ้าเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต

มีหลักคำสอนแห่งความรักเป็นเข็มทิศชี้นำ

ก็เสมือนมีกฎระเบียบคอยกำหนดเส้นทางให้เรา

เดินไปบนหนทางที่ถูกต้องมายิ่งขึ้น

หากเราจะดำเนินชีวิตเหมือนมนุษย์คนอื่นๆทั่วไป

เราก็คงไม่แตกต่างจากมนุษย์ที่ดำรงชีวิตเพื่อตนเอง

เพื่ออำนาจ  เพื่อไขว่คว้าหาความสุข สบายฝ่ายกาย

“เงินทองของท่านก็เป็นสนิม

และสนิมนั้นจะเป็นพยานกล่าวโทษท่าน”

(ยากอบ 5:3)

...............................

ความเชื่อ...เป็นพระพรของพระเจ้า

ที่เราต้องสวดภาวนาเพื่อวอนขอให้มีเพิ่มมากขึ้นในทุกๆวัน

เพื่อว่า เมื่อเรามีความเชื่อนั้น

เราจะได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อ

เหมือนอัครสาวกที่ดำเนินชีวิตเป็นประจักษ์พยานแห่งความเชื่อ

เมื่อพระจิตเจ้าได้เสด็จลงมา

ภาพลักษณ์ของมนุษย์ผู้มีแต่ความหวาดกลัว  ความอ่อนแอ

ก็หมดสิ้นไป เมื่อเรามีพระจิตนำพระพรแห่งความเชื่อมาสู่เรา

“เมื่อพระจิตลงมาเหนือเขาเหล่านั้นแล้ว

เขาก็เริ่มพูดเหมือนประกาศก”

(กันดารวิถี 11:25)

……………….

กิจการใดก็ตามที่เรากระทำลงไปแล้ว

ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของพระเยซูเจ้าต้องหม่นหมองไป

เราก็ไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระองค์

แต่ถึงกระนั้น  มนุษย์ก็ยังคงมีสภาพของความอ่อนแอ

พร้อมจะพ่ายแพ้แก่บาปเสมอ

แต่ทุกครั้งที่เราสำนึกและพร้อมจะกลับใจ

เราก็ยังได้รับพระเมตตาให้อยู่ในพระพรของพระเจ้า

เป็นพระเมตตาที่ไม่มีวันสูญสิ้นเลย

...............................

ศิษย์พระคริสต์  ติดตาม  องค์พระเจ้า

มีความเชื่อ เป็นเงา  คอยรักษา

ทุกกิจการ  ผ่านความรัก และเมตตา

สร้างคุณค่า  ประกาศก  ผู้แพร่ธรรม

มาตรฐาน ชีวิต  คริสตชน

มีพระดล  บันดาลให้  ใจสูงล้ำ

ด้วยแบบอย่าง  พระคริสต์เด่น  เป็นผู้นำ

เส้นทางธรรม  จะมุ่งไป  ไม่หวั่นเลย

........................................

S