“พระจิตเจ้าทรงเป็นผู้ประทานชีวิต

ลำพังมนุษย์ทำอะไรไม่ได้

วาจาที่เรากล่าวแก่ท่านทั้งหลายนั้นให้ชีวิต

เพราะมาจากพระจิตเจ้า”

(ยอห์น 6:63)

............................................

เมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ในปฐมกาล

พระองค์ทรงประทานชีวิตให้มนุษย์

“ทรงเอาฝุ่นจากพื้นดิน มาปั้นมนุษย์

และทรงเป่าลมแห่งชีวิตเข้าในจมูกของเขา

มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต”

(ปฐมกาล 2:7)

ลมเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพระจิตเจ้า

ต้นกำเนิดแห่งชีวิตของเรา

พระบิดาทรงประทานพระจิตให้เรา

เพื่อให้เรามีชีวิตใหม่ในสภาพร่างกายที่เน่าเปื่อยได้นี้

พระบิดาทรงประทานพระบุตรให้เรา

เพื่อให้เรามีชีวิตใหม่จากสภาพวิญญาณที่แปดเปื้อนนี้เช่นกัน

............................................

ข่าวสถานการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมา

เตือนใจเราคริสตชนว่า

เราต้องพร้อมเสมอที่จะถูกเรียกกลับคืนสู่บ้านแท้ของเรา

“ลำพังมนุษย์ทำอะไรไม่ได้”

ร่างกายที่เราเฝ้าเพียรดูแลเอาใจใส่  ปรนเปรอให้ทุกอย่าง

เราก็ไม่สามารถที่จะกำหนดความยืนยาว

ของการรักษาไว้ซึ่งชีวิตด้วยตัวเราเองได้เลย

ลมหายใจและชีวิตของเราเป็นของพระจิตเจ้า

ประตูสุดท้ายที่เราต้องก้าวผ่านไป

คือประตูแห่งความตาย

ความยากลำบากจะนำเราไปสู่ชัยชนะที่แท้จริง

......................................

พ่อให้ข้อคิดเตือนใจลูกๆว่า

“พ่อแก่มากแล้ว  ถ้าพ่อเป็นอะไรไปก็ไม่ต้องเสียใจกันมากมาย

ลูกลองคิดดูนะ  ลูกจากบ้านมาทำงานที่ไกลๆ

ลูกไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเลย

วันหนึ่งลูกมีโอกาสได้ขับรถกลับบ้าน

ใกล้จะถึงหน้าบ้านของลูกแล้ว

จู่ๆ ลูกก็หันหัวรถกลับไม่เข้าบ้าน

ไม่ไปหาพ่อของลูกที่รอลูกอยู่...เช่นนั้นหรือ?

.......................................................

ชีวิตคือ ของประทาน  ของพระจิต

และชีวิต  นั่นศักดิ์สิทธิ์  มีคุณค่า

ใช้ชีวิต  ให้คุ้ม พระเมตตา

ยึดวาจา  พระเจ้า   เอานำทาง

สิ้นสุดท้าย  ปลายชีวิต  คือจบสิ้น

คราร่างกาย  สลายสิ้น   บินจากร่าง

เหลือไว้เพียง  เถ้าธุลี  ที่เบาบาง

จึงลาร้าง  จากไป  ยังถิ่นเดิม

.................................................

S