“พระเยซูเจ้าทรงหยิบขนมปังขึ้น

ทรงขอบพระคุณพระเจ้า

แล้วทรงแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่นั่งอยู่ตามที่เขาต้องการ”

(ยอห์น 6:11)

..............................................

พระพรต่างๆที่เรามี เป็นของประทานจากพระเจ้า

และมันจะทวีมากยิ่งขึ้นเมื่อถูกนำมาแบ่งปัน ช่วยเหลือแก่คนรอบข้าง

ยิ่งให้ยิ่งได้รับ เป็นกฎแห่งการให้ที่สวยงาม

เด็กน้อยคนหนึ่ง มอบสิ่งเล็กน้อยที่ตนเองมีให้แก่พระเยซูเจ้า

ขนมปังบาร์เล่ย์ห้าก้อน กับปลาสองตัว

อาจจะเป็นอาหารมื้อสำคัญของเด็กน้อยคนนั้น

แต่เขาก็มอบให้กับพระเยซูเจ้าเพื่อแบ่งปันต่อไป

สิ่งที่แบ่งปันออกไปจะถูกทวีคุณค่ามากขึ้น

และไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่สิ่งเหล่านั้นจะถูกทิ้งให้สูญเปล่า

“จงเก็บเศษขนมปังที่เหลือ  อย่าให้สิ่งใดสูญไปเปล่าๆ”

(ยอห์น 6:12)

.........................................

พระเจ้าไม่เคยทอดทิ้งลูกของพระองค์

ให้เหน็ดเหนื่อยเกินกำลังที่ลูกของพระองค์จะรับได้

ลูกที่พระองค์ทรงรักจะไม่ถูกทอดทิ้งแม้แต่คนเดียว

ลูกที่รักพระองค์ และยำเกรงพระองค์

จะไม่มีใครถูกทอดทิ้งให้หิวกระหายเลย

“ท่านทั้งหลายจะได้กิน แล้วยังจะมีเหลืออีก”

(2 พงศ์กษัตริย์ 4:43)

“พระองค์ทรงตอบสนองความปรารถนา

ของทุกคนที่ยำเกรงพระองค์”

(สดุดี 145:19)

..................................................

ขอให้ลูกรู้จักที่จะถ่อมตนอยู่เสมอ

พร้อมที่จะรับฟังคำสอนของพระองค์ และนำไปปฏิบัติตาม

มีความสุภาพอ่อนโยนพอที่จะให้พระองค์ตักเตือนเมื่อลูกทำผิดพลาด

มีความพากเพียรอดทนพอที่จะให้อภัยคนอื่น

และน้อมรับสิ่งที่พระองค์จะประทานให้ด้วยความเชื่อ

แม้สิ่งนั้นอาจจะดูด้อยค่าในสายตาของมนุษย์

เป็นเพียงแค่ขนมปังและปลาชิ้นน้อยๆ

ที่เมื่อผ่านความเชื่อแล้วมันกลับทวีคุณค่ามากขึ้น

ขอให้ลูกแบ่งปันสิ่งเหล่านี้เพื่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน

“จงถ่อมตนอยู่เสมอ  จงมีความอ่อนโยน

พากเพียรอดทนต่อกันด้วยความรัก”

(เอเฟซัส 4:2)

...............................................

ขนมปัง   ชิ้นน้อย  ดูด้อยค่า

รวมกับปลา  อีกสองตัว   จะอิ่มไหม

พระเจ้าทรง   แบ่งกระจาย   มันออกไป

ทรงตรัสไว้   อย่าทิ้งไป  แม้สักชิ้น

ดังพระพร  ที่พระ  ทรงมอบไว้

รู้แบ่งไป  ให้ผู้อื่น  ไม่หมดสิ้น

ดั่งสายธาร  ไหลชุ่มชื่น รื่นชีวิน

ไม่สูญสิ้น  พระเมตตา  มาประทาน

......................................

S