“ดินนั้นมีพลังให้เกิดผลในตนเอง”

(มก.4:28)

...............................

สิ่งที่ดูเหมือนจะต่ำต้อยที่สุด

กลับแฝงไปด้วยพลังอันทรงคุณค่า ลี้ลับ และซับซ้อน

ยากเกินที่มนุษย์จะเข้าใจ

เมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งตกลงในดินดี

 เมล็ดนั้นก็ฝังตัวอยู่ในดิน

พลังลี้ลับของผืนดิน  อำนาจของพระเจ้า

ทำให้เมล็ดพืชเมล็ดนั้นเจริญเติบโต  แตกกิ่งก้านงอกงาม

เป็นที่พึ่งพิงของเหล่าสรรพสิ่งสร้างทั้งปวง

“พระอาณาจักรของพระเจ้าเปรียบเหมือนเมล็ดมัสตาร์ด

ซึ่งเมื่อหว่านในดิน ก็เป็นเมล็ดเล็กกว่าเมล็ดทั้งปวงทั่วแผ่นดิน

แต่ครั้นได้หว่านแล้วก็งอกขึ้นและกลายเป็นต้นไม้ใหญ่กว่าพืชผักทุกชนิด

มีกิ่งก้านใหญ่โตจนบรรดานกในอากาศมาพักอาศัยร่มเงาได้”

(มก.4:31-32)

....................................

“ดินนั้นก็ทรงพลัง                        เมล็ดพืชฝังหยั่งรากลงดิน

กาลเวลาผันผ่านโผผิน                                เมล็ดพืชในดินก็งอกงาม

แตกกิ่งออกก้านชูช่อ                                   พุ่มกอสูงใหญ่น่าเกรงขาม

นกกาน้อยใหญ่งดงาม                                 พักพิงยามอ่อนแรงแห่งชีวิต”

..............................................

เมล็ดพืชเน่าเปื่อยลงในดินและเกิดเมล็ดพืชใหม่อีกมากมาย

เมื่อเมล็ดพืชเมล็ดหนึ่งยอมสละตนเองที่จะย่อยสลายไป

เพื่อให้ยอดอ่อนต้นใหม่แทงขึ้นมา และเกิดผลเป็นเมล็ดพืชอีกมากมาย

“เมื่อเรามีชีวิตอยู่ในร่างกาย

เราก็ถูกเนรเทศห่างจากองค์พระผู้เป็นเจ้า”

(2 คร. 5:6)

พระเจ้าข้า  โปรดทรงครอบครองดวงใจข้าพเจ้า

โปรดทรงหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งรักลงในดวงใจข้าพเจ้า

โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนดินที่ทรงพลังและมีคุณค่า

พร้อมจะให้เมล็ดพันธุ์แห่งรักของพระองค์เจริญงอกงาม

แผ่กิ่งก้านกว้างใหญ่ เพียงพอที่จะเป็นที่พักพิงแก่คนรอบข้าง

เป็นแสงสว่างแห่งความหวังแก่คนที่กำลังสิ้นหวัง

เป็นพยานแห่งชีวิตของพระองค์

ในการปกป้องพระอาณาจักรของพระองค์

ให้รอดพ้นจากสิ่งเลวร้ายในปัจจุบันนี้ด้วยเถิด อาแมน

..............................................................

S