“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก
ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง”
(มาระโก 16:15)
...................................................
หน้าที่หลักหน้าที่หนึ่งของคริสตชน
คือหน้าที่แห่งการประกาศข่าวดีขององค์พระเยซูคริสตเจ้า
มีข้อคิดดีดีประโยคหนึ่งเขียนไว้ว่า
“ผู้ที่ไม่มีก็ไม่สามารถให้ในสิ่งที่ตนไม่มีได้”
ในฐานะคริสตชนคนหนึ่ง
หากเราไม่มีพระเยซูเจ้าและคำสอนของพระองค์ในหัวใจ
เราก็ไม่สามารถไปบอกใครต่อใครให้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าได้
แม้แต่การกระทำของตัวเอง ที่ไม่ได้เป็นแบบอย่าง
ไม่ได้เป็นประจักษ์พยานของพระเยซูเจ้าเลย
เราจึงพลาดที่จะทำหน้าที่ศิษย์ที่แท้จริงของพระองค์ไป
ด้วยเหตุผลที่เราไม่มีเพราะเราไม่เปิดใจที่จะมี ไม่เปิดใจที่จะรับ
.........................
บุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
เราจะเพียรใส่ใจทุกอิริยาบถ ทุกการกระทำ
เฝ้าชื่นชม และกล่าวถึงอย่างชื่นชมต่อหน้าคนรอบข้าง
ให้พวกเขาได้สัมผัสถึงความดี ความสวยงามของบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
ไตร่ตรองดูว่าพระเยซูเจ้าคือบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของเราจริงแท้แค่ไหน
เราพร้อมจะประกาศถึงคุณความดี แบบอย่างที่สวยงามของพระองค์หรือไม่
เรารู้จักพระองค์มากน้อยเพียงใด
“เราจะให้ในสิ่งที่เราไม่มีไม่ได้
เราจะกล่าวว่ารักโดยขาดการกระทำไม่ได้เลย”
พระเจ้าทรงประทานพระปรีชาญาณให้เราทุกคน
พร้อมที่จะเรียนรู้ แยกแยะสิ่งต่างๆ
ทรงพร้อมที่จะเปิดดวงตาของดวงใจให้เราได้เรียนรู้จักพระองค์
แต่ทรงให้อิสรภาพเราที่จะเลือกรับรู้ เรียนรู้ และยอมรับ
“พระบิดาผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์ประทานพระพรแห่งปรีชาญาณ
และการเปิดเผยให้แก่ท่านเดชะพระจิตเจ้า
เพื่อท่านจะได้รู้ซึ้งถึงพระองค์ยิ่งๆขึ้น
ขอพระองค์โปรดให้ตาแห่งใจของท่านสว่างขึ้น”
(เอเฟซัส 1:18)
………………………….
โปรดประทาน ปรีชาญาณ ข้าเจ้าเถิด
ให้ก่อเกิด เป็นกิจการ อันยิ่งใหญ่
เพื่อเรียนรู้- จักพระองค์ ทุกวันไป
ประกาศก้อง เกรียงไกร ทั่วโลกา
ถึงกิจการ แห่งรัก อันศักดิ์สิทธิ์
ให้ทุกทิศ อบอวลด้วย ถ้อยคุณค่า
ประจักษ์พยาน แห่งชีวิต และเมตตา
โปรดประทาน มานา แห่งดวงใจ
โปรดเปิดตา ข้าเจ้าเถิด เกิดความรู้
เปิดดวงใจ ให้มองดู ความยิ่งใหญ่
และนำแสง แห่งรัก ฉายส่องไป
เปิดดวงตา ของดวงใจ ให้ข้าเทอญ
................................................... |