“ความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้ว”
“ผู้ที่ปฏิบัติตามความจริงย่อมเข้าใกล้ความสว่าง”
(ยน.3:14-21)
.............................................
เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถทำให้สิ่งที่ผิดกลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกได้
และทำให้สิ่งที่ถูกอาจจะดูผิดเพี้ยนไปได้เช่นกัน
สมัยก่อนเมื่อต้องการถ่ายภาพตัวเองสักภาพหนึ่ง
และกว่าจะได้ภาพที่ตัวเองดูดีที่สุดมานั้นมันแสนยากลำบากยิ่งนัก
บ้างก็ต้องใช้ความมืดช่วยให้ตัวเองดูดีขึ้น
บางก็ใช้ฟิลเตอร์ให้ตัวเองออกมาเบลอๆเหมือนภาพในฝัน
แต่ปัจจุบันเรามีกล้องมือถือที่ประกอบด้วยแอพริเคชั่นมากมาย
ลดเลือนริ้วรอย ตกแต่ง ต่อเติม จะคิ้วเข้ม ตากลมโต แก้มแดง ปากเรียว
ล้วนสร้างได้ด้วยแอพเหล่านี้ทั้งสิ้น
เราบดบังความจริงด้วยสิ่งหลอกลวงที่เราสร้างขึ้น
เพื่อให้เราดูดีในสายตาคนอื่นที่ไม่เคยมาสัมผัสตัวตนแท้จริงของเรา
เรากลัวที่จะต้องเผชิญกับความผิดหวัง คำดูถูกดูแคลน
เราไม่ต้องการเห็นสิ่งบกพร่องของตนเองและไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้
“คนที่ทำชั่วย่อมเกลียดความสว่าง
และไม่เข้าใกล้ความสว่าง
เกรงว่า การกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง”
(ยน.3:20)
ความสว่างทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆชัดเจนยิ่งขึ้น
ใจที่เปิดออกทำให้แสงแห่งธรรมส่องเข้าไปถึง
ใจที่ปิดตายจะกักเก็บอธรรมเอาไว้
และจะคอยระแวงว่าแสงแห่งธรรมจะฉายเข้ามาจนเห็นอธรรมที่ไร้ความงดงามได้
............................................
ชายคนหนึ่งมักแสดงตนว่าอยู่ข้างความมืด
ปิดกั้นตนเองไม่ให้ความสว่างส่องเข้ามาถึง
เขาใช้ถ้อยคำหยาบคายให้การถกเถียง ด่าทอสังคม
เขายืนยันถึงความมืดของตนเองต่อสาธารณชน
และเรียกร้องที่จะได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง
ในฐานะตัวแทนแห่งความมืดนั้น
และมั่นใจในสิ่งที่ตนเรียกร้อง และนำเสนอว่าถูกต้อง
“ความรอดพ้นมิได้มาจากท่าน
แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า”
(อฟ.2:8)
...................................................
“ขอให้แสง แห่งธรรม ได้สาดส่อง
ทอสีทอง ส่องใจ ให้ลูกนี้
ทางความมืด ที่วกลง อเวจี
ให้หลบลี้ หนีหาย ไปแสนไกล
ขอแสงทอง ส่องใส ในใจลูก
ประหนึ่งปลูก เมล็ดพันธุ์ ร่มไม้ใหญ่
เพียงหวังไว้ สักวันหนึ่ง แผ่กิ่งใบ
เป็นเครื่องมือ ผู้รับใช้ ของพระองค์”
....................................................... |