“จงเงียบ ออกไปจากผู้นี้”

(มก.1:25)

.............................................................

พระเยซูเจ้าทรงดุปีศาจที่สิงอยู่ในชายคนหนึ่ง

พระองค์ทรงสั่งให้มันเงียบ และออกไปจากชายผู้นั้น

มันก็ออกไปจากเขา

พยศชั่วมากมายที่แอบซ่อนเร้นอยู่ในชีวิตของเรา

คอยสร้างความปั่นป่วนให้การดำเนินชีวิตของเรา

เป็นเสมือนปีศาจร้ายที่สิงอยู่ในตัวเรา

และเราก็ยินดีเปิดใจต้อนรับมัน

.........................................

ใครคนหนึ่งที่เหมือนจะมีประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชนกว่าฉัน

บอกกับฉันว่า มีอะไรที่เลวร้ายมากมายบนโลกใบนี้ที่ฉันยังไม่รู้

บางทีการไม่ต้องเข้าไปสัมผัส หรือเรียนรู้กับสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

ก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน

เพราะชีวิตคนเราหนึ่งชีวิตไม่จำเป็นที่จะต้องพาตนเองเข้าไปเสี่ยง

กับสิ่งที่เรียกว่าความเลวร้ายมิใช่หรือ

เปรียบเหมือนหากเรารู้ว่าตรอกซอกซอยนี้มีโจรร้ายดักซุ้มอยู่

เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ว่าการโดนดักทำร้ายจะเป็นอย่างไร

เราก็เลี่ยงที่จะเดินผ่านเส้นทางนั้น ไม่ใช่หรือ?

เส้นทางมืดบอด และเต็มไปด้วยฝูงสุนัขป่า

เราจะเข้าไปเพื่อประโยชน์อันใด?

วัยรุ่นหลายคนพบกับความหายนะก็เพราะอยากเสี่ยง อยากทดลองใช่ไหม?

.........................................................

ถึงกระนั้น แม้เราจะพยายามเหลือเกิน

ที่จะไม่หลงเดินเข้าไปในเงาแห่งความตาย

แต่หลายครั้งเราก็พลัดหลงไปกับความสวยงามของเงามืดนั้น

ที่ออกมาร่ายระบำเชื้อเชิญให้เราเข้าร่วม

พระเยซูเจ้าทรงเอื้อมพระหัตถ์ออกมาช่วยเหลือเรา

เรียกเราให้ออกมาสู่แสงสว่างแห่งความจริง

หากเราไม่ให้ความร่วมมือกับพระองค์

ใช้อิสรภาพของตนไปในทางแห่งความมืด

เราก็ทำให้ความรักของพระเยซูเจ้าที่ทรงห่วงใยเรานั้นสูญเปล่า

“เพื่อให้ท่านดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง”

(1คร.7:35)

...........................................................

ข้าจะขอ สวมใส่ เอาความรัก

มาปกปักษ์ พิทักษ์ วิญญาณนี้

ข้าจะขอ มอบความรัก และภักดี

เพื่อองค์เจ้า ชีวี  ด้วยปรีดา

จะยึดมั่น ในหนทาง  ที่ถูกต้อง

จะแซ่ซ้อง สรรเสริญ เพลงหรรษา

แด่พระเจ้า จอมกษัตริย์  ขัตติยา

ที่เฝ้าคอย ปกปักษ์ข้า รักษาใจ

สิ่งเลวร้าย ใดใด ในโลกหล้า

ขอพระโปรด เมตตา  ข้าได้ไหม

อย่าให้มัน  เยื้องย่าง  บนทางใจ

ให้ห่างไกล  บาปร้าย  ภัยพาลเทอญ.

.............................