“เพราะโลกดังที่เป็นอยู่กำลังจะผ่านไป”

( 1คร.7:31)

....................................

เวลาที่เราคิดว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน

โดยเฉพาะในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก ความลำบากและปัญหาสารพัน

ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะผ่านพ้นวันเวลาเหล่านี้ไปได้อย่างไร

เคยมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเกริ่นไว้ว่า

เมื่อลูกจะมาทำงานให้พระ  มันยิ่งท้าทายปีศาจ

มันจะออกแรงเพื่อสร้างความทดท้อให้กับเราและงานของพระองค์

ยิ่งเราดึงดันจะต่อสู้  มันก็ยิ่งโหมกำลังเข้าใส่เพื่อเอาชนะ

ไม่มีทางเลยที่เราจะเอาชนะปีศาจได้เพียงลำพัง

“หากไร้พระองค์ลูกคงไม่อาจทำสิ่งใด”

ลำพังตัวลูกเองช่างอ่อนแอ งอแง  ทดท้อ  ล้มลุกคลุกคลานไม่ว่างเว้น

หากไร้พระองค์ลูกคงเตลิดหลงไปไกลแสนไกล

ในท่ามกลางปัญหาสารพัน

ขอให้ลูกมีสำนึกเสมอที่จะคิดถึงพระเมตตาของพระองค์

ความรักยิ่งใหญ่ของพระองค์

รู้จักที่จะสละน้ำใจตัวเองและเดินตามทางที่พระองค์ตระเตรียมไว้ให้

“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้ารู้จักทางของพระองค์

โปรดทรงสอนมรรคาของพระองค์แก่ข้าพเจ้า”

(สดด.25:4)

................................................

เหน็ดเหนื่อย  ใช่ไหม  ดวงใจเอ๋ย

เหมือนถูก   ละเลย  เลยใช่ไหม

จะเหลียวหา คนที่รัก และเข้าใจ

มองไป ทางใด  ให้มืดมน

ทดท้อ  เปล่าเปลี่ยว  และเงียบเหงา

น้ำตา บางเบา  เคล้าสายฝน

ทั้งเศร้า ทั้งเหน็บหนาว  ในกมล

เหมือนคน  อันจน  ด้วยหนทาง

โอ้พระ  เจ้าข้า โปรดเมตตา

ยื่นอ้อม  กอดมา  อย่าเหินห่าง

สุดไขว้คว้า  ก็จะเอื้อม  จนสุดทาง

ขอเพียง  ได้วาง  ดวงใจลง

จะพัก ดวงใจ  ลงตรงนี้

ณ พระหัตถ์  ปราณี  ที่เสริมส่ง

ทุกครั้ง ที่ทดท้อ  หรือปลดปลง

พระหัตถ์  มั่นคง  ทรงคุ้มครอง

.............................................