“พระองค์ทรงพำนักอยู่ที่ไหน”
(ยอห์น1:38)
.....................................
ยอห์น และอันดรูว์ อัครสาวกของพระเยซูเจ้า
ถามพระเยซูเจ้าว่า “พระองค์ทรงพำนักอยู่ที่ไหน”
พระเยซูเจ้าชวนเชิญท่านทั้งสองให้มาดูที่ประทับของพระองค์
และท่านทั้งสองก็พักอยู่กับพระองค์ในวันนั้น
หลายต่อหลายครั้งที่เราต้องการที่จะรู้จักพระเยซูเจ้า
แต่เมื่อพระองค์ทรงเปิดเผยให้เรารู้จักพระองค์
เรากลับไม่เชื่อในสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยกับเรา
เพียงเพราะว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ตรงกับความต้องการของเรา
สิ่งเหล่านั้นฝืนต่อความสุขของเรา
หรือสิ่งเหล่านั้นเป็นปัญหาที่ทำให้เรารู้สึกผิดหวัง
เรายืนดูพระองค์อยู่ไกลๆ ด้วยความระแวงสงสัย
................................
เราแต่ละคนต่างมีกระแสเรียกที่แตกต่างกันไป
เมื่อเราทดลองเดินตามกระแสเรียกใดกระแสเรียกหนึ่ง
แล้ววันหนึ่งเราพบว่ามันไม่ใช่เส้นทางของตนเอง
ไม่ว่าจะด้วยผลการประเมินของใครก็ตาม
แต่เมื่อสิ่งนั้นไม่ใช่เส้นทางของตน
เราก็ย้อนกลับมาไตร่ตรองตนเองว่า
กระแสเรียกที่เหมาะสมกับเราคืออะไร
ไม่ใช่ต่อว่าอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นความผิดพลาดของใคร
................................................
อัครสาวกของพระเยซูเจ้าติดตามพระองค์ไปทุกที่
ท่ามกลางการต่อต้าน ขัดแย้งแข่งขัน
พวกท่านมีความเชื่อที่มั่นคง ยืนหยัดแม้พบกับอุปสรรคมากมาย
ถึงกระนั้น ในวันที่พระเยซูเจ้าถูกจับกุม
สภาพความเป็นมนุษย์ของเหล่าอัครสาวกก็เกิดขึ้น
ต่างวิ่งหนีและปฏิเสธพระเยซูเจ้า
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเมื่อพวกท่านสำนึกในความบกพร่องของตน
ท่านก็พร้อมรับพระคุณของพระจิต
และกล้าที่จะออกไปยืนยันความเชื่อท่ามกลางการต่อต้านนั้น
มิชชันนารีหลายท่านไม่ได้เป็นแรงผลักดันให้เรามั่นคงในความเชื่อเลยหรือ
พระเยซูเจ้าทรงตั้งนักบุญเปโตรให้เป็นผู้นำพระศาสนจักร
ทรงตั้งท่านให้เป็นศิลา
“ท่านคือซีโมน บุตรของยอห์น
ท่านจะมีชื่อว่าเคฟาส แปลว่า เปโตร
หรือ “ศิลา””
(ยอห์น 1:42)
...................................................
ทุกครั้งที่ได้ทราบข่าวคราวถึงการเปลี่ยนเส้นทางเดินของเณร
ข้าพเจ้ารู้สึกหวาดหวั่น ในจำนวนพระสงฆ์ นักบวชที่กำลังลดลงอย่างมาก
แต่ถึงกระนั้น ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า มันมีปัญหาที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นแฝงอยู่ด้วย
เมื่อเณรที่เปลี่ยนเส้นทางเดินกลับกลายเป็นผู้ต่อต้านในเส้นทางเดินเส้นเดิมของตน
ข้าพเจ้าเฝ้าสงสัยว่า ทำไมสภาพจิตวิญญาณของเขาที่น่าจะได้รับการหล่อหลอม
ไม่มากก็น้อยจากบ้านเณร ควรจะทำให้เขามีความเชื่อที่มั่นคงยิ่งขึ้น
ข้าพเจ้าเฝ้าภาวนาขอให้บรรดาพระสงฆ์ นักบวช
เพียรเอาใจใส่ต่อชีวิตฝ่ายจิต และชีวิตฝ่ายกายของพวกเขา
แม้พวกเขาจะเปลี่ยนเส้นทางเดินก็ตาม
รวมไปถึงผู้ปกครองของพวกเขาด้วย
ที่ควรจะต้อนรับเขาอย่างดี ทั้งกล่อมเกลาเขาให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ซึ่งสิ่งเหล่านั้นน่าจะเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดที่พระทรงเลือกสรรไว้ให้เขา
และถึงพวกเขาที่เมื่อเปลี่ยนเส้นทางเดินแล้ว
ขอให้พวกเขายึดพระเยซูเจ้าไว้เป็นหลักชีวิต
ยึดพระศาสนจักรและคำสอนของพระศาสนจักรไว้ให้มั่น
ไม่ใช่ยึดติดกับตัวบุคคลที่ทำให้พวกเขาผิดหวัง
หรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่พึงใจเท่าที่ควร
เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่แตกต่างอะไรกับวันที่พระเยซูเจ้าโดนปฏิเสธ
จากบรรดาอัครสาวกเลย คำถามว่า
“พระองค์ทำผิดอะไร ท่านจึงทอดทิ้งพระองค์ไป”
................................................. |