“คนเลี้ยงแกะ แยกแกะออกจากแพะ

ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย”

(มธ.25:32-33)

........................................

เมื่อวันพิพากษามาถึง

พระเจ้าจะทรงแยกคนชั่วออกจากคนดี

เหมือนคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ

กิจการแห่งรักและเมตตาของเรากิจการใด

ที่สะสมไว้บนโลกใบนี้

จะเป็นทุนฝ่ายวิญญาณของเรา

เป็นใบเบิกทางนำเราเข้าสู่พระราชัยสวรรค์

เป็นตราประทับว่าเราคือแกะหรือแพะของอาณาจักรสวรรค์

....................................

แม้กระทั่งในกิจการของมนุษย์

เรายังใช้วิจารณญาณแยกคนดีและคนไม่ดีได้

เรายังสามารถบอกถึงกิจการดีที่คนดีพึงกระทำได้

แล้วใยเราจึงไม่สามารถทำตัวเองให้เป็นคนดีให้จงได้

..................................

ทั้งๆที่เรามีแบบอย่างของพระเยซูเจ้าเป็นเข็มทิศชี้นำทางเรา

แต่เราก็ยังคงเมินเฉยต่อคำสอนของพระองค์

กิจเมตตาของพระองค์ต่อคนบาป

คนยากจน คนต่ำต้อย คนไร้ที่พึ่ง

ล้วนเป็นกิจการแบบอย่างที่นำทางไปสู่อาณาจักรสวรรค์ทั้งสิ้น

“ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง

ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา”

(มธ.25:40)

......................................

แม่ชีเทเรซา แห่งกัลกัตตากล่าวว่า

“ชีวิตที่ไม่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น เป็นชีวิตที่ไร้ค่า”

ดังนั้น  ตลอดชีวิตของท่าน ท่านจึงเลียนแบบอย่างชีวิตของพระเยซูเจ้า

คือการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ถือกฎเกณฑ์ใดใด

หากกฎเกณฑ์นั้นไร้ซึ่งความรัก

กิจการเมตตา แฝงไปด้วยอุ่นไอของความรัก

ซึ่งกรุ่นอยู่ในวิญญาณของคริสตชนทุกคน

นับแต่พระเจ้าได้ทรงประทานลมปราณให้กับร่างกายนี้

พระองค์ก็มอบหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ให้กับเราด้วย

หน้าที่แห่งรัก

หากเราบกพร่องต่อหน้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของคริสตชนนี้แล้ว

การได้รับมาซึ่งชีวิตอันทรงคุณค่า

ก็ไร้ซึ่งคุณประโยชน์ และไร้ค่าด้วย

.................................................

หากชีวิต  หนึ่งชีวิต  ที่คงอยู่

กลับไม่รู้  คุณค่า  เมตตาไร้

ก็เปรียบดั่ง  ใบไม้แห้ง  ที่ร่วงไป

ไร้คุณค่า  ใดใด  ให้แผ่นดิน

พระทรงมอบ  หน้าที่  ที่ยิ่งใหญ่

มีน้ำใจ  ให้ชาวชน  ไม่รู้สิ้น

คนยากจน  ข้นแค้น  ในแดนดิน

จงยลยิน  รินน้ำใจ  ให้ทุกคน

............................................