“พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก
จึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์
เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ
แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
(ยน.3:13-17)
เพลงบทนี้ร้องขับขานไว้ว่า
“พระเจ้าทรงรักโลกนี้ ยอมให้แม้ชีวีเพื่อเรา
ในพระคริสต์ผู้ไถ่บาปเรา
ผู้เป็นที่รักของพระองค์...”
ทุกครั้งที่เราปล่อยชีวิตของเราเดินตามกระแสโลก
หันทิศทางตามกระแสลมที่หมุนวนลงทะเล
เราก็จะค่อยๆจมลงสู่ก้นทะเลตามแรงหมุนวนนั้น
การวิ่งทวนกระแสลมเป็นความยากลำบาก
เหนื่อยและทดท้อเมื่อเรารู้สึกว่าความรอดอยู่ที่ใด
จะมีหรือไม่ก็ไม่อาจรับรู้ได้
สู้ปล่อยตัวเองไปตามกระแสลมวน
ยังคงดีเสียกว่า
...............................
ในอดีตก่อนที่ข้าพเจ้าจะเริ่มฝึกฝนตนเอง
ให้เขียนนั่นโน่นนี่เกี่ยวกับพระเจ้าลงในDiaryของตนเองนั้น
ข้าพเจ้าใช้ชีวิตตามวิถีโลกมาโดยตลอด
หกล้ม ผิดพลาด มอมแมม เลอะเทอะทุกวัน
แม้กระทั่งเริ่มฝึกไตร่ตรองพระวาจา
และเขียนบันทึกไว้
ข้าพเจ้าก็ยังพลาดหลงทางอยู่เสมอ
แต่อย่างน้อย...สิ่งเหล่านั้น
ค่อยๆขัดเกลาข้าพเจ้า
ทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า
ข้าพเจ้าจะต้องไม่ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนั้นอีก
ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าไตร่ตรองพระวาจา
เป็นเสมือนพระเจ้าทรงส่งพลังอำนาจของพระองค์ลงมายังข้าพเจ้า
ให้ข้าพเจ้ามีความเข้มแข็งพอที่จะปฏิเสธความชั่วร้ายทั้งหลาย
อำนาจของพระเจ้า เสริมกำลังข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวต่อแรงยั่วยุใดใดในโลกนี้อีก
…………………….
“เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ”
..................................
รูปแบบการภาวนา หรือไตร่ตรองพระวาจามากมายหลายรูปแบบ
ถูกคัดสรรจากพระศาสนจักรเพื่อให้คริสตชนได้สัมผัส
อย่างน้อยน่าจะมีสักรูปแบบหนึ่งที่เหมาะสมกับเราที่สุด
น่าจะมีสักรูปแบบหนึ่งที่จะขัดเกลาใจแข็งกระด้างของเราได้
ตราบใดที่เรายังหลงผิดคิดพลาด
เราก็ยังคงต้องพึ่งพาพระเจ้าอยู่เสมอไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม
...................................
ตราบที่เรา ยังหลงผิด คิดพลาดพลั้ง
ทางความหวัง ยังคลุมเครือ ระเรื่ออยู่
ตราบที่โลก ยังหมุนเวียน เปลี่ยนฤดู
อย่าหยุดอยู่ ดูชีวิต ที่โสมม
จงก้าวตาม วิถีพระ ที่ประสบ
รู้เคารพ คำพระสอน พรเหมาะสม
ไตร่ตรองทุก ถ้อยวาจา พระพรพรม
สู่ชีวิต ที่ชื่นชม สมพระพร
.................................... |