“เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์

ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป

และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา

เพื่อให้โลกมีชีวิต”

(ยน. 6:51-59)

.....................................................

คืออาหารหล่อเลี้ยงวิญญาณร่างกาย

คือจุดหมายปลายทางแห่งชีวิตเรานั้น

คือท่อธารเพื่อผู้เชื่อได้รับชีวิตนิรันดร์

คือเลือดเนื้อองค์ทรงธรรม์ที่แบ่งปันให้เรา

แล้วเพราะเหตุใดเราจึงเมินเฉย

ปล่อยปละละเลยชีวิตแห้งเหี่ยวเฉา

พระพรพระหลั่งมาเรากลับไม่น้อมยอมรับเอา

ใช้ชีวิตโง่เขลามัวเมาอยู่กับกิจอันใด

.............................................

ตามปกติโรงเรียนคาทอลิกโดยทั่วไป

จะมีการตรวจเชคเวลามาร่วมพิธีบูชาวันอาทิตย์

ของนักเรียนคาทอลิกอยู่เสมอ

น่าภูมิใจที่นักเรียนแสดงความซื่อสัตย์ด้วยการแจ้งความจริง

ว่าไม่ได้มาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ

ในวันอาทิตย์กันเป็นส่วนมาก

ถ้าเป็นนักเรียนชั้นเล็กๆก็คงโทษที่ผู้ปกครอง

ที่ไม่ใส่ใจชีวิตจิตของลูกๆเลย

แต่ถ้าเป็นนักเรียนชั้นที่ดูแลตัวเองได้แล้วหละ

ลูกมัวแต่ไปหลงทิศทางกับสิ่งใดในโลกอยู่

ชีวิตของคนเราถ้านับดูจริงๆก็ไม่ใช่จะยาวนานนัก

บ้างก็ตายด้วยวัยอันไม่สมควรจะตายไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็ตาม

แต่ถึงเราจะมีอายุยืนนานแต่ก็ไม่เคยมีใครไม่เดินทางสู่ความตาย

แต่ละปีผ่านไปรวดเร็ว

ปีหนึ่งจะมีสักกี่ชั่วโมงที่เรามีเวลาอยู่กับพระบ้าง

ให้เวลาที่แน่นอนกับพระบ้าง

พระศาสนจักรกำหนดให้เรามาร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ

ในทุกวันอาทิตย์

อาทิตย์ละ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

แค่นี้เราก็ยังพลาดโอกาสในการเก็บเกี่ยวพระพร

พลาดโอกาสในการให้อาหารแก่วิญญาณตนเอง

แล้วเราจะเอาอะไรไปต่อสู้กับการประจญล่อลวงมากมายบนโลกใบนี้ได้

ชีวิตนิรันดรจากพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า

เมื่อเราขาดพลังจากเบื้องบน

เราก็อ่อนแอและพร้อมยอมต่อมารร้าย

เราเดินถอยห่างจากชีวิตนิรันดรออกไป

ยิ่งทอดทิ้งนานวันเข้า

ความห่างไกลระหว่างสวรรค์กับวิญญาณก็มากขึ้น

เราต้องการเช่นนั้นหรือ